ที่พรรคเพื่อไทย มีการประชุมคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน หรือ วิปฝ่ายค้านเพื่อหารือเกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล โดย พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้านและการมีส่วนร่วมของประชาชน กล่าวว่า ประเด็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ทั้ง การแถลงนโยบาย โดยไม่ระบุที่มาของงบประมาณตามรัฐธรรมนูญมาตรา 162 ซึ่งได้มีการส่งเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือป.ป.ชไต่สวน นายกรัฐมนตรีว่าเป็นการแถลงนโยบายมิชอบ, การถวายสัตย์ไม่ครบถ้วนของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่าจงใจไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 5 และมองว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเป็นเพียงความเห็นประกอบซึ่งไม่ใช่คำวินิจฉัยว่าผิดหรือไม่ ไปจนถึงการกระทำผิดมาตรฐานทางจริยธรรมและการสรรหา ส.ว.ที่มีกรรมการสรรหาตัวเองไปเป็น ส.ว.ด้วย  

พันตำรวจเอกทวี กล่าวถึงการบริหารประเทศของรัฐบาลทำให้ประชาชนเสียโอกาส ฝ่ายค้านจะพิจารณาจากหลักฐานที่สามารถทำให้เชื่อได้ว่ามีการกระทำทุจริตของรัฐบาล รวมถึงการกระทำผิดกฎหมาย ที่เป็นการช่วยเหลือตนเองหรือพวกพ้อง ทำให้ประชาชนได้รับความทุกข์ยาก และในเรื่องที่รัฐธรรมนูญกำหนดให้ผู้นำหรือรัฐมนตรีต้องมีมาตรฐานทางคุณธรรมจริยธรรม ที่จะต้องไม่ไปช่วยเหลือผู้กระทำความผิด หรือใช้อำนาจของตัวเองไปสร้างผลประโยชน์ให้กับพวกพ้องด้วย  

ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในช่วงเย็นวันนี้จะมีการหารือกันระหว่างหัวหน้าพรรคการเมืองทั้ง 7 พรรค คาดว่าจะได้เห็นภาพที่ชัดเจนขึ้นว่าในแต่ละพรรคการเมืองทำการบ้านหรือเตรียมตัวกันมาอย่างไร ซึ่งตนได้เปิดเผยต่อสื่อมวลชนไปแล้วว่า สัปดาห์ที่แล้วได้หารือกับหัวหน้าพรรคการเมืองในชั้นต้น ว่าใครประสงค์หรือมีประเด็นที่จะอภิปรายในประเด็นใดบ้างที่รู้สึกว่ารัฐบาลได้ดำเนินการหรือทำให้ประเทศเสียหาย ซึ่งในหลักการนั้น ไม่ว่าพรรคการเมืองใดจะมีสมาชิกมากน้อยเพียงใด หากมีประเด็นที่ชัดเจนมีบุคคลที่คิดว่ารัฐบาลทำความเสียหายให้กับประเทศ ไม่ว่าจะเป็นนักการเมืองเก่า, นายทหารเก่าหรือพรรคใดก็ตามที่ร่วมรัฐบาล ก็จะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจทั้งหมด  

โดยหลังจากวันนี้ที่หารือกับหัวหน้าพรรคการเมืองเมื่อทราบประเด็นต่างๆชัดเจนแล้ว ก็จะนำมารวบรวมกันเพื่อทำการบ้าน คาดว่าใช้เวลาเพียง 1-2 วันก็น่าจะสามารถสรุป พร้อมย้ำกรอบเนื้อหาในการอภิปรายเน้น 2 เรื่องใหญ่คือ ความสามารถในการบริหารประเทศ บริหารเศรษฐกิจที่ล้มเหลวทำให้เกิดปัญหาความยากลำบากของประชาชนรวมถึงความไม่ยุติธรรมต่างๆ   

ประเด็นที่ 2 แม้รัฐบาลผ่านการเลือกตั้งมาไม่นาน แต่นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีส่วนใหญ่ อยู่ในอำนาจที่ต่อเนื่องมายาวนานตลอดเวลาเกือบ 5 ปี ดังนั้น สิ่งที่ดำเนินการอยู่นี้และกฎกติกาที่สร้างขึ้นมา รวมถึงการบริหารประเทศที่เอื้อประโยชน์ให้กับพวกพ้องของตัวเองเหล่านี้ก็จะเป็นประเด็นที่หยิบยกขึ้นมาอภิปรายรัฐบาล