ไม่พบผลการค้นหา
"คุณหญิงสุดารัตน์" ร่วมกิจกรรม ลงแขกเกี่ยวข้าวกับกลุ่มเกษตรอินทรีย์ จ.ขอนแก่น พบชาวนาถูกเอาเปรียบไร้มาตรการดูแล แนะชะลอการขาย พร้อมเรียกร้องรัฐ ดูแลทันทีก่อนข้าวอยู่ในมือพ่อค้า

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่ ตำบลบ้านโต้น อำเภอ พระยืน จังหวัดขอนแก่นพร้อม นายบัลลังก์ อรรณนพพร นางมุกดา พงษ์สมบัติ ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย นายพงศกร อรรณนพพร นายอดิศร เพียงเกษ นายธนิก มาสีพิทักษ์ นายสุรชัย เบ้าจรรยา อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย จังหวัดขอนแก่น ร่วมลงพื้นที่ 

โดยคุณหญิงสุดารัตน์ ได้พบปะกลุ่มเกษตรกร โดยเฉพาะเกษตรอินทรีย์ ให้กำลังใจในการประกอบอาชีพ เยี่ยมชมผลิตภัณฑ์ข้าวปลอดสารพิษ รวมถึงแนะนำวิธีการ ปลูกและขายข้าวอย่างไรให้มีประสิทธิภาพและได้ราคาอย่างเหมาะสม จากนั้นคุณหญิงสุดารัตน์พร้อมคณะร่วมกิจกรรมลงแขกเกี่ยวข้าวร่วมกับเกษตรกร ซึ่งโครงการดังกล่าวเป็นหนึ่งใน ความต่อเนื่อง จากโครงการข้าวสานธรรม" ที่ดำเนินการมาทุกปี จนได้รับมาตรฐานสากลในการผลิตข้าวออร์แกนิก สอดคล้องกับนโยบายของพรรคเพื่อไทยที่ส่งเสริมเรื่องมาตรการอาหารปลอดภัย ทั้งในไทยและต่างประเทศ 

คุณหญิงสุดารัตน์ย้ำว่า โครงการ"ข้าวสานธรรม "เป็นอีกหนึ่งโครงการที่จะเชื่อมโยงกับกลุ่มเกษตรอินทรีย์ โดยนำข้าวจากมือเกษตรกรไปขายในราคาที่เป็นธรรม ให้ประชาชนในกรุงเทพฯและเมืองใหญ่ สามารถจองข้าวออร์แกนิก ส่งให้ถึงบ้านและซื้อตรงจากเกษตรกร พร้อมเตรียมเปิดตัวเว็บไซต์ซึ่งเป็นระบบออนไลน์ ให้สั่งจองได้โดยตรง เป็นการส่งเสริมให้ลดการเจ็บป่วย โดยเฉพาะโรคมะเร็ง ซึ่งมีแนวโน้มสูงขึ้น อย่างมีนัยยะสำคัญ

นอกจากนี้ยังเรียกร้องรัฐบาลว่าฤดูกาลผลิตนี้ ข้าวสารและข้าวเหนียวขาดตลาด เกษตรกรควรได้ราคาดีเพราะต้องประสบปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วม ทำให้ผลผลิตมีน้อย แต่ปรากฏว่าปัจจุบันชาวนาถูกเอาเปรียบ โดยไม่มีมาตรการของภาครัฐออกมาช่วยเหลือ ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิคุณภาพดีที่สุดของโลก ขายได้เพียงกิโลกรัมละ 12 บาทเท่านั้น

"ในห้วงของการเก็บเกี่ยวรัฐบาลต้องเข้ามาดูแล ไม่ใช่ไปดูแลในช่วงปลายเดือนหรือต้นเดือนหน้าซึ่งข้าวจะอยู่ในมือพ่อค้าคนกลางแล้ว ข้าวมันย้ายมือจากชาวนาไปอยู่ในมือพ่อค้าคนกลางไปอยู่ในโรงสีแล้ว ราคาจึงขึ้น รัฐต้องมีมาตรการออกมาช่วย ชะลอการขายข้าว ให้ชาวนาให้ได้ แต่เราไม่เห็นมาตรการใดๆ เลยรัฐบาลเงียบกริบหมด ปล่อยให้ชาวนาขายข้าวในราคาที่ไม่เป็นธรรมแบบนี้ "

ขณะที่พรรคเพื่อไทยพยายามช่วยเหลือเท่าที่ทำได้โดยเฉพาะการหาช่องทางจัดจำหน่าย พร้อมสื่อสารไปถึงพี่น้องเกษตรกรว่า อย่าเพิ่งรีบขายข้าว ให้เก็บไว้รอราคาที่เหมาะสม จึงทยอยขาย ดังนั้นหากรัฐจริงใจจะช่วยเหลือเกษตรกรต้องช่วยในช่วงเวลานี้ ก่อนที่ข้าวจะไปอยู่ในมือพ่อค้าคนกลาง