ไม่พบผลการค้นหา
ผู้นำคนใหม่แห่งกองกำลังกุดส์ของอิหร่าน รับตำแหน่งอย่างเป็นทางการแทนอดีตผู้นำซึ่งถูกสหรัฐฯ สังหารต้นเดือน ม.ค. พร้อมประกาศจะล้างแค้นสหรัฐฯ ด้วยวิธีการอย่างลูกผู้ชาย ขณะที่ ส.ส.อิหร่านประกาศในสภาว่าจะจ่ายเงินรางวัล 3 ล้านดอลลาร์แก่ผู้ที่สังหาร ปธน.สหรัฐฯ ได้

พลจัตวาอิสมาอิล กาอานี บุคคลที่มีอิทธิพลต่อกลุ่มติดอาวุธชาวมุสลิมนิกายชีอะห์ในตะวันออกกลาง อัฟกานิสถาน และปากีสถาน ได้รับการแต่งตั้งขึ้นดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการกองกำลังกุดส์ หน่วยรบที่สำคัญของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของประเทศอิหร่าน เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเว็บไซต์ Newsweek สื่อของสหรัฐฯ รายงานว่าเขาประกาศจะล้างแค้นสหรัฐอเมริกาที่ใช้โดรนยิงสังหารพลตรีกัสซิม โซเลมานี อดีตผู้บัญชาการกองกำลังกุดส์ เมื่อวันที่ 3 ม.ค.2020

พลจัตวากาอานีระบุว่า เขาจะใช้วิธีการ 'อย่างลูกผู้ชาย' ตอบโต้สหรัฐฯ พร้อมระบุว่าการที่สหรัฐฯ เลือกใช้โดรนลอบสังหารอดีต ผบ.โซเลมานี เป็นเพราะไม่กล้าเผชิญหน้า และเป็นการกระทำที่ขี้ขลาด เขาจึงเรียกร้องให้กลุ่มติดอาวุธคาทาอิบ ฮิซบัลเลาะห์ แนวร่วมของกองกำลังกุดส์ ยกระดับการต่อสู้กองทัพสหรัฐฯ ในตะวันออกกลาง

ขณะเดียวกัน Aljazeera รายงานว่า 'อาหมัด ฮัมซา' ส.ส.จากเขตคาร์นุจ ไม่ไกลจากเมืองเคอร์มาน ซึ่งเป็นบ้านเกิดของพลตรีโซเลมานี ประกาศกลางที่ประชุมสภาในกรุงเตหะรานของอิหร่านเมื่อวันที่ 21 ม.ค.ว่า เขาจะมอบเงินสด 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 90 ล้านบาท) ให้แก่ใครก็ตามที่สังหารโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้สำเร็จ ทั้งยังเสนอแนะให้อิหร่านเร่งพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์เพื่อตอบโต้การรุกราน

ทว่า คำประกาศของฮัมซาไม่ได้รับความสนใจจากที่ประชุมสภามากนัก ทั้งยังเป็นข้อเสนอที่ไม่ได้ผ่านการเห็นชอบจากรัฐสภาและผู้นำระดับสูงของศาสนาอิสลาม 

AFS - อิหร่าน ถล่ม สหรัฐฯ

ทางด้าน 'โรเบิร์ต วูด' เอกอัครราชทูตชาวอเมริกันที่เป็นผู้แทนด้านการลดอาวุธประจำสำนักงานสหประชาชาติที่นครเจนีวาของสวิตเซอร์แลนด์ ระบุว่าคำประกาศของฮัมซาเป็นเรื่องตลกไร้สาระ แต่ก็สะท้อนให้เห็นว่า แนวคิดเรื่องการก่อการร้ายปรากฏอยู่แม้แต่ในสถาบันการปกครองหลักของอิหร่าน 

อย่างไรก็ตาม ท่าทีของฮัมซาและพลจัตวากาอานี ขัดแย้งกับคำแถลงของ 'ฮัสซัน โรฮานี' ประธานาธิบดีอิหร่านคนปัจจุบัน ซึ่ง Reuters อ้างอิงว่า เขาเรียกร้องให้กลุ่มประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) ยืนยันว่าจะไม่กระทำผิดซ้ำรอยรัฐบาลสหรัฐฯ ทั้งยังย้ำว่า อิหร่านจะไม่แสวงหาหรือจัดหาอาวุธนิวเคลียร์ ไม่ว่าจะมีหรือไม่มีการเจรจาเรื่องข้อตกลงนิวเคลียร์รอบใหม่ระหว่างอิหร่านและประเทศมหาอำนาจฝั่งตะวันตก

ขณะที่รัฐบาลสหรัฐฯ ไม่ได้ตอบโต้ท่าทีของอิหร่านแต่อย่างใด ส่วนทรัมป์อยู่ระหว่างเข้าร่วมการประชุมเศรษฐกิจโลก หรือ World Economic Forum (WEF) ที่เมืองดาวอส สวิตเซอร์แลนด์ แต่ The Hill รายงานว่า กองทัพสหรัฐฯ ในอิรักทยอยลำเลียงทหารอเมริกันอย่างน้อย 11 นายออกนอกพื้นที่ประจำการ เพื่อไปรักษาอาการบาดเจ็บที่ศีรษะ ซึ่งเป็นผลจากที่กองทัพอิหร่านยิงขีปนาวุธโจมตีฐานทัพสหรัฐฯ ในอิรักเมื่อวันที่ 8 ม.ค. เพื่อตอบโต้การลอบสังหารพลตรีโซเลมานี

สื่อสหรัฐฯ รายงานว่า คำสั่งเคลื่อนย้ายทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดบ่งชี้ว่า อาการที่เกี่ยวข้องกับศีรษะของทหารอเมริกันอาจรุนแรงกว่าที่ทรัมป์เคยแถลงว่า "ไม่มีทหารอเมริกันเป็นอันตราย" จากการโจมตีของอิหร่าน 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: