ไม่พบผลการค้นหา
ฮิวแมนไรท์วอทช์ระบุว่าการชุมนุมของผู้ประท้วงในไทยเป็นไปด้วยความสันติ และเรียกร้องให้นานาชาติรวมถึง UN ควรออกมาร่วมกดดันให้รัฐบาลไทยยุติการปราบปรามผู้ชุมนุม พร้อมยังชี้ว่า การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นการอนุญาตให้ จนท.รัฐละเมิดสิทธิ ปชช.โดยไม่มีความผิด

ฮิวแมนไรท์วอทช์ (HRW) องค์กรสิทธิมนุษยชนออกแถลงการณ์รายงานสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในประเทศไทยเมื่อวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยระบุว่า การชุมนุมประท้วงของกลุ่มนักเรียน นักศึกษาและประชาชนที่กรุงเทพฯ นั้นเป็นการชุมนุมโดยสันติ และการที่ตำรวจใช้รถปืนฉีดน้ำฉีดใส่ผู้ชุมนุมนั้น เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนตามหลักสากล

'เเบรด อดัมส์' ผู้อำนวยการภาคพื้นเอเชียของ HRW กล่าวว่า การชุมนุมประท้วงในประเทศไทยที่เรียกร้องประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชนและการปฏิรูปนั้นเป็นไปอย่างสันติ และ การประกาศใช้สถานการณ์ฉุกเฉินของรัฐบาลเป็นการอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกระทำการละเมิดสิทธิของประชาชนโดยไม่มีความผิด

แถลงการณ์ของ HRW ยังชี้ว่า การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินของรัฐบาลไทยเป็นการให้อำนาจแก่เจ้าหน้าที่ในการจับกุมผู้ชุมนุมโดยไม่ต้องตั้งข้อหาและสามารถคุมตัวผู้ถูกจับไปยังสถานที่คุมขังที่ไม่ใช่ของทางการได้ เช่น ค่ายทหาร และยังเป็นการเพิ่มอำนาจให้แก่เจ้าหน้าที่ในการปิดกั้นสื่อ ซึ่งเป็นการคุกคามสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกและเสรีภาพของสื่อด้วยเช่นกัน

ภายใต้การแนะนำขององค์กรสหประชาชาติ ปี 2563 ระบุว่า การใช้ปืนฉีดน้ำสลายการชุมนุมนั้นควรใช้ในสถานการณ์ที่มีความผิดปกติร้ายแรงที่มีความเสี่ยงต่อการสูญเสียชีวิต การบาดเจ็บร้ายแรง หรือ การทำลายทรัพย์สินในวงกว้าง และปืนฉีดน้ำไม่ควรฉีดพุ่งเป้าไปยังบุคคล หรือ กลุ่มประชาชนในระยะใกล้ เนื่องจากอาจทำให้ตาบอดชั่วคราว หรือบาดเจ็บได้หากประชาชาชนถูกฉีดน้ำใส่โดยตรง

ทั้งนี้ ผอ.ฮิวแมนไรท์วอทช์ ประจำเอเชียยังเรียกร้องให้รัฐบาลและองค์กรสหประชาชาติออกมาพูดเพื่อเรียกร้องให้ 'รัฐบาลประยุทธ์' ยุติการปราบปรามผู้ชุมนุมทางการเมืองโดยทันที

นอกจากนี้แถลงการณ์ยังรายงานสิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศไทยทั้งการปิดกั้นการรายงานของสื่อต่างชาติในเครือข่ายสัญญาณโทรทัศน์ของทรูวิชั่น และการที่เจ้าหน้าที่ไทยปิดสถานีดาวเทียมที่เผยแพร่การออกอากาศของ 'วอยซ์ทีวี' รวมถึงการจับกุมนักข่าวของประชาไทด้วยเช่นกัน