ไม่พบผลการค้นหา
แฮสโบรออกเกมเศรษฐีเวอร์ชันใหม่สำหรับคนยุคมิลเลนเนียล ไม่ได้ชนะด้วยเงินที่มากที่สุด แต่ชนะด้วยการรวยประสบการณ์ ทว่าชาวมิลเลนเนียลกลับไม่ปลื้ม

“ลืมเรื่องอสังหาริมทรัพย์ไปเถอะ ยังไงก็ซื้อไม่ไหวอยู่แล้ว” คือคำโปรยบนกล่องของเกมเศรษฐีรุ่นใหม่สำหรับเด็กยุคมิลเลนเนียล ‘Monopoly for Millennials’ ซึ่งผลิตโดยแฮสโบร (Hasbro) บริษัทเจ้าของลิขสิทธิ์เกมเศรษฐี (Monopoly)

เกมเศรษฐีเวอร์ชันนี้ ผู้ชนะไม่ใช่คนรวยที่สุด แต่เป็นคนมากประสบการณ์ที่สุดแทน เพราะไม่ได้มีการซื้อขายบ้าน หรือตึกแบบที่ทุกคนคุ้นเคย แต่ในเกมผู้เล่นสวมบทเป็นคนรุ่นใหม่ที่ทำงานแทบตายก็ยากจะซื้อบ้านของตัวเองได้ และหันไปใช้จ่าย เพื่อประสบการณ์ใหม่ๆ แทน

ช่องต่างๆ บนกระดานจึงไม่ใช่สถานที่ให้ครอบครอง แต่เป็นอีเวนต์ หรือประสบการณ์เก๋ๆ อย่าง เทศกาลดนตรี 3 วัน 3 คืน ไปนั่งชิลบ้านเพื่อน ซื้อเสื้อผ้ามือสอง เรียนโยคะ ปฏิบัติธรรม หรือกินอาหารมังสวิรัติกันแบบชิคๆ


Untitled-3.jpgUntitled-4.jpg
  • ภาพกระดานเกมเศรษฐี Monopoly for Millennials ภาพจาก Walmart

หลังกล่องเกมมาพร้อมคำโปรยว่า “เป็นผู้ใหญ่มันยาก พักจากการแข่งขันในชีวิตกันดีกว่า” อีกทั้งตัวเกมยังเคลมว่า เกมเศรษฐีเวอร์ชันนี้ คือบอร์ดเกมที่ให้คนยุคมิลเลนเนียลหยุดพักจากการแข่งขันในฐานะผู้ใหญ่ในสังคม โดยเฉพาะในสหรัฐฯ ที่มีการแข่งขันสูง ขณะที่มีภาระอย่างค่าเช่าที่พัก และต้องดิ้นรนทยอยจ่ายหนี้ที่กู้ยืมมาเพื่อการศึกษา จนไม่มีทรัพย์สินชิ้นใหญ่เป็นของตัวเอง

ผลสำรวจพบว่า 22.5 เปอร์เซ็นต์ของคนยุคมิลเลนเนียลในช่วงอายุ 24-36 ปี ยังอาศัยอยู่บ้านเดียวกับผู้ปกครอง ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องแปลกสำหรับสังคมอเมริกัน

ตัวเกมจึงถอดระบบการซื้อ ขาย ครอบครอง แบบเก่าออก แม้แต่ระบบการจ่ายค่าเช่าเมื่อเดินตกช่องที่ดินของผู้เล่นคนอื่น ซึ่งเป็นหนึ่งในเอกลักษณ์ของเกมเศรษฐีก็หายไป กลายเป็นว่าตกในช่องของคนอื่นก็จะได้ค่าประสบการณ์ร่วมกับเพื่อนมาเพิ่มแทน


Untitled-5.jpg
  • กล่องและคำอธิบายของเกม Monopoly for Millennials ภาพจาก Walmart

ในเวอร์ชันนี้แฮสโบรพยายามขายคอนเซปต์เรื่องประสบการณ์เต็มที่ โดยอธิบายว่า “เงินไม่สามารถซื้อช่วงเวลาดีๆ ได้เสมอไป แต่ประสบการณ์ไม่ว่าจะดี หรือประหลาดก็ตาม ยังไงมันก็จะอยู่กับเราตลอดไป”

อย่างไรก็ตาม หลังแฮสโบรจัดจำหน่ายเกมเศรษฐีรุ่นใหม่นี้ผ่านวอลมาร์ตทั้งผ่านห้างร้านและออนไลน์ ชาวมิลเลนเนียลดูจะไม่ประทับใจสักเท่าไร มีทั้งผู้ที่รู้สึกว่าแฮสโบรทำตัวเหมือนคนแก่ที่พยายามจะฮิป ไปจนถึงคนที่รู้สึกว่าถูกดูถูกว่าไม่มีปัญญาซื้อทรัพย์สินทั้งที่คนยุคเบบี้บูมเมอร์นั่นแหละที่ก่อวิกฤตทางเศรษฐกิจ และทำให้คนในปัจจุบันเสื่อมสมรรถภาพทางการเงินกันมานับสิบปี


ด้านบัญชีทวิตเตอร์ของซาราห์ (Sarah) แสดงความคิดเห็นว่า “ฉันนึกไม่ออกเลยว่า แฮสโบรสร้าง Monopoly for Millennials มาให้ใครเล่น อย่างกับว่าเรายังเจอเรื่องแย่ๆ ไม่พอแน่ะ (หัวเราะ) เกมเกี่ยวกับชีวิตคนยุคมิลเลนเนียลต้องมีเรื่องการจ่ายค่าเช่าเข้ามาเกี่ยวสิ ค่าเช่าเยอะเลยด้วย คนส่วนใหญ่ในยุคนี้ไม่มีปัญญาจะมาจ่ายเงินเพื่อซื้อ 'ประสบการณ์' หรอกนะ น่าผิดหวังจริงๆ”