ไม่พบผลการค้นหา
ครม.มีมติเปลี่ยนชื่อโครงการ 'เราไปเที่ยวกัน-เที่ยวปันสุข' เป็น 'เราเที่ยวด้วยกัน' ให้ค่าเดินทางเฉพาะตั๋วเครื่องบิน กลุ่มรถเช่าอดร่วมโครงการ กดปุ่มผู้ประกอบการลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ 1 ก.ค. ปชช.ทั่วไป 15 ก.ค.

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 30 มิ.ย.2563 มีมติอนุมัติโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมภาคการท่องเที่ยวของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ประกอบด้วย โครงการกำลังใจ กรอบวงเงิน 2,400 ล้านบาท และโครงการเราเที่ยวด้วยกัน กรอบวงเงิน 20,000 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 22,400 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่เดือน ก.ค.-ต.ค. 2563 รวม 4 เดือน 

โดยมีรายละเอียด ดังนี้

1) โครงการ 'เราเที่ยวด้วยกัน' มีวัตถุประสงค์เพื่อการฟื้นฟูภาคธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศที่ซบเซาอันเนื่องมาจากโควิด-19 เพื่อให้ภาคธุรกิจท่องเที่ยวยังคงเกิดการจ้างงาน และมีการสร้างรายได้ให้กับประเทศ โดยมีแผนการใช้จ่ายเงินตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. -31 ธ.ค. 2563 และคาดว่าโครงการนี้จะสร้างรายได้แก่ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร แหล่งท่องเที่ยวและสายการบิน โดยประมาณการรายได้ทางตรงแก่ผู้ประกอบการรวมไม่น้อยกว่า 50,000 ล้านบาท และรายได้สู่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวในภาพรวมไม่น้อยกว่า 26,127 ล้านบาท หรือตลอดระยะเวลาดำเนินโครงการเกิดประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อมรวมไม่น้อยกว่า 726,127 ล้านบาท

2) โครงการ 'กำลังใจ' มีวัตถุประสงค์ส่งเสริมกำลังใจอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ให้เดินทางท่องเที่ยวข้ามจังหวัด จำนวน 1.2 ล้านคน และสร้างรายได้แก่ภาคธุรกิจท่องเที่ยวทางตรง 2,400 ล้านบาท ก่อให้เกิดรายได้หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจทางอ้อมประมาณ 6,500 ล้านบาท และกระจายสู่ผู้ประกอบการในภาคการท่องเที่ยว ได้แก่ บริษัทนำเที่ยว ธุรกิจโรงแรม ธุรกิจร้านอาหาร และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง

ทั้งนี้ โครงการ 'เราเที่ยวด้วยกัน' มาจากการรวมโครงการ 'เราไปเที่ยวกัน' และโครงการ 'เที่ยวปันสุข' ที่เคยเสนอให้ ครม.รับในหลักการ เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.2563 ที่ผ่านมา ขณะที่โครงการที่ได้รับอนุมัติจาก ครม. วันที่ 30 มิ.ย. อนุมัติค่าเครื่องบิน 2,000 บาท จำนวน 2 ล้านใบ และค่าที่พัก ร้านอาหารร้อยละ 40 โดยเปิดให้ผู้ประกอบการลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.เราเที่ยวด้วยกัน.com ในวันที่ 1 ก.ค. นี้ ส่วนประชาชนทั่วไปลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค. เป็นต้นไป โดยให้ 1 คน 1 สิทธิ

"จากเดิมที่ให้ค่าเดินทางสำหรับรถโดยสารสาธารณะ รถเช่า แต่เนื่องจากมีผู้ประกอบการจำนวนมากไม่ได้อยู่ในระบบภาษี โครงการนี้จึงให้สำหรับค่าเดินทางโดยสายการบิน 1 คน 1 สิทธิ มูลค่า 2,000 บาท ที่มีทั้งหมดจำนวน 2 ล้านใบ" น.ส.ไตรศุลี กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :