ไม่พบผลการค้นหา
'บารัก โอบามา' อดีตปธน.สหรัฐฯ เผย 1 ใน 3 วิกฤติการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นบนโลกที่น่าห่วงที่สุด คือปัญหาด้านสภาพภูมิอากาศที่อาจสายเกินแก้

Business Insider รายงานว่า ในการประชุมสุดยิ่งใหญ่ประจำปีของ Salesforce บริษัทผู้ผลิตซอฟท์แวร์สัญชาติอเมริกันที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในนครซานฟรานซิสโก มลรัฐแคลิฟอร์เนียร์ของสหรัฐฯ ที่ใช้ชื่องานว่า 'Dreamforce' นายบารัก โอบามา อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ คือหนึ่งในแขกคนสำคัญที่ได้ขึ้นเสวนาร่วมกับ CEO และผู้ร่วมก่อตั้งของบริษัทภายใต้หัวข้อ 'ปัญหาสำคัญที่สุดในปัจจุบันที่ต้องได้รับการแก้ไข'

นายโอบามาเปิดประเด็นโดยระบุอย่างไม่ลังเลว่า 'วิกฤติการณ์สภาพภูมิอากาศโลก' คือปัญหาที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง เพราะคำว่า 'สายเกินไป' นั้นมีอยู่จริง ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมนั้นเกิดขึ้น เนื่องจากวัฒนธรรมและความเป็นไปของวิถีชีวิตผู้คนยุคโมเดิร์นมีการขับเคลื่อนและผลักดันให้ผู้คนบริโภคมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยนายโอบามาได้ยกตัวอย่างว่าสิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดก็คือการที่บ้านเรือนในยุคนี้ใช้ไฟฟ้ามากกว่าทุกยุคสมัยที่เคยมีมา 

"เราเพิ่งจะพูดกันไปก่อนหน้านี้เองว่าการที่เราสามารถสร้างแหล่งพลังงานเพิ่มขึ้นมากมายอย่างมีประสิทธิภาพได้ถือเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยม แต่มันก็คือความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ว่า วัฒนธรรมที่เชื่อว่า ยิ่งมากยิ่งดีกว่า และยิ่งใหญ่กว่าก็ยิ่งดีกว่า คือส่วนหนึ่งของความท้าทายอย่างมากในการจัดการกับภาวะสิ่งแวดล้อมถูกทำลาย" นายโอบามากล่าว

climate change.jpg

'เทคโนโลยีสมัยใหม่ทำให้ความไม่เท่าเทียมเพิ่มมากขึ้น'

นายโอบามากล่าวต่อว่า ปัญหาใหญ่ที่น่าเป็นห่วงที่สุดอีก 2 อย่างคือ ความไม่เท่าเทียมที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ รวมถึงการเติบโตของยุคข้อมูลข่าวสารอันไร้ขีดจำกัดในปัจจุบัน ซึ่ง 2 ปัญหาดังกล่าวกำลังได้รับการกระตุ้นอย่างรวดเร็วโดย 2 ปัจจัยหลักคือ โลกาภิวัฒน์และเทคโนโลยี

อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยอมรับว่า แม้การมีเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาในชีวิตจะช่วยให้ผู้คนทั่วโลกซึ่งรวมถึงตัวเขานั้นสามารถเข้าถึงความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่กว่าที่เคยมีมา ทั้งยังทำให้ตัวเขาและบุคคลสำคัญทั้งหลายสามารถสร้างอิทธิพลต่อสังคมโลกได้อย่างมหาศาลด้วย

สิ่งที่นายโอบามามองเห็นได้อย่างชัดเจนก็คือ เทคโนโลยีเหล่านี้กำลังสร้างความเหลื่อมล้ำและความไม่เท่าเทียมที่แผ่ขยายออกไปอย่างต่อเนื่อง โดยตัวเขาเองคิดอยู่เสมอว่าจะทำอย่างไรให้เด็กทุกคนบนโลกสามารถเข้าถึงโรงเรียนที่ดีได้ และจะต้องทำอย่างไรผู้คนที่ไร้บ้านจะหมดไปจากท้องถนน แต่ถือเป็นเรื่องยาก เพราะความไม่เท่าเทียมในสังคมที่ยังเติบโตแบบไม่หยุดนิ่ง


AFP ชาวเคิร์ด ประท้วง ตุรกี สหรัฐฯ Kurds protest US Turkey

'เรากำลังแยกตัวออกห่างจากกันและกันเพราะเทคโนโลยี'

นายโอบามาชี้ว่าในปัจจุบัน การเติบโตแบบไร้ขีดจำกัดของ 'โซเชียลมีเดีย' และ 'อินเทอร์เน็ต' ก็สร้างผลกระทบอย่างยิ่งต่อความเป็นไปทางการเมือง กล่าวคือโซเชียลมีเดียและอินเทอร์เน็ตส่งผลให้ความแตกต่างทางการเมืองกลายเป็น 'ความสุดโต่งแบบสิ้นเชิง' มากขึ้นเรื่อยๆ และผู้คนในแต่ละกลุ่มก็มีมุมมองต่ออินเทอร์เน็ตที่แตกต่างกันอย่างมาก

"อีกสิ่งหนึ่งที่กำลังเกิดขึ้นอย่างเห็นได้ชัดคือ ผู้คนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอะไรคือความจริงและอะไรคือเรื่องโกหก อะไรคือสิ่งที่เชื่อได้และอะไรคือเรื่องที่ไม่ควรเชื่อ เพราะอยู่ดีๆ ผู้คนก็ต่างต้องเผชิญหน้ากับสิ่งที่พวกเขาไม่เคยประสบมาก่อนในชีวิต ผมจึงคิดว่าสิ่งที่ท้าทายที่สุดอย่างหนึ่งในตอนนี้ก็คือว่าเราจะทำอย่างไรจึงจะสามารถทำให้ผู้คนมีบทสนทนาร่วมกันได้ และมีวัฒนธรรมบางอย่างร่วมกัน" นายโอบามาแสดงความเห็น

เขายังชี้ด้วยว่า ปัญหาทั้งหมดที่ว่ามานี้ไม่ได้กระทบกับภาคการเมืองอย่างเดียวเท่านั้น เพราะมันส่งผลกระทบอย่างยิ่งไปยังระดับบุคคลเช่นกัน เห็นได้จากการที่เราเริ่มแยกตัวออกห่างจากกันไปเรื่อยๆ ในวิถีทางอันหลากหลายที่อาจจะเป็นอันตรายอย่างยิ่ง และที่น่าห่วงก็คือทุกๆ คนซึ่งรวมถึงตัวเขา ยังคงมีความเชื่ออยู่ว่า อินเทอร์เน็ตจะเป็นเครื่องมืออันทรงพลังที่จะทำให้ผู้คนมองเห็นและเข้าใจกันมากขึ้นโดยไม่มีเรื่องความเอียงข้างมาเกี่ยวข้อง