ไม่พบผลการค้นหา
สถานการณ์โควิด-19 ในจีนพ้นภาวะวิกฤต ตัวเลขผู้ติดเชื้อ-เสียชีวิต ลดลงต่อเนื่อง แต่หลายประเทศในยุโรป อเมริกา ตะวันออกกลาง ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุข และยกระดับมาตรการรับมือโรคระบาดอย่างเร่งด่วน

หลังจากองค์การอนามัยโลก หรือ WHO ประกาศว่าโรค 'โควิด-19' เป็นการระบาดใหญ่ทั่วโลก (pandemic) เมื่อ 12 มี.ค.2563 ก็มีรายงานสถิติผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นภายใน 157 ประเทศและเขตปกครองทั่วโลก

ทั้งนี้ จำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกในวันที่ 16 มี.ค.2563 อยู่ที่ประมาณ 169,533 ราย และผู้เสียชีวิตอีกประมาณ 6,515 ราย ตัวเลขผู้เสียชีวิตและติดเชื้อส่วนใหญ่ยังอยู่ในจีนแผ่นดินใหญ่ แต่ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้ติดเชื้อรายใหม่ในจีนลดลงต่อเนื่อง จนวันนี้จีนมีผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมกันแค่ 30 รายเท่านั้น (ติดเชื้อ 16 ราย เสียชีวิต 14 ราย)

แต่สถานการณ์ที่ 'อิตาลี' ยังไม่พ้นภาวะวิกฤต พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 368 ราย ตามด้วยอิหร่าน มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 113 ราย และหลายประเทศแถบยุโรปกับอเมริกาก็พบตัวเลขผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยที่สเปน มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นอันดับ 4 คือ 96 ราย ตามด้วยฝรั่งเศส 36 ราย อังกฤษ 14 ราย และสหรัฐอเมริกา 11 ราย

ด้วยเหตุนี้ แต่ละประเทศจึงพร้อมใจกันขยายมาตรการควบคุมโรค เช่น งดกิจกรรมและการรวมตัวในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อลดความเสี่ยงที่เชื้อโรคจะแพร่กระจายเพิ่มเติม

รัฐบาลท้องถิ่นบางแห่งของสหรัฐฯ ประกาศปิดผับ บาร์ และร้านอาหาร รวมถึงปิดโรงเรียนต่อไปจนกว่าจะสิ้นเดือนมีนาคม หรือบางรัฐใช้วิธีปรับลดเวลาเปิดให้บริการของร้านอาหารหรือผับบาร์เหล่านี้แทน เพราะเกรงว่ามาตรการนี้จะส่งผลกระทบกับผู้บริโภคเช่นกัน 

ส่วนที่ 'กวม' พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เป็นครั้งแรก โดย 2 รายเป็นผู้เดินทางมาจากฟิลิปปินส์ และอีก 1 รายเป็นผู้สูงอายุที่ไม่เคยมีประวัติการเดินทางออกนอกพื้นที่ไปไหน ทำให้รัฐบาลกวมประกาศมาตรการกีดกันตัวเอง โดยให้ผู้ต้องสงสัยติดเชื้อหรือผู้ที่มีประวัติเคยเกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้ติดเชื้อ กักตัวเองอยู่ในบ้าน เลี่ยงการเข้าสังคม เพื่อรอดูอาการเพิ่มเติม

อย่างไรก็ตาม WHO ยืนยันว่า การประกาศให้โรคโควิด-19 เป็นการระบาดใหญ่ ไม่ได้มีผลเปลี่ยนแปลงด้านนโยบายป้องกันหรือควบคุมโรคนี้แต่อย่างใด รัฐบาลในประเทศต่างๆ จะต้องสร้างความเข้าใจกับประชาชน ไม่ให้เกิดภาวะตื่นตระหนก

ส่วนเป้าหมายของประกาศเรื่องการระบาดใหญ่ คือ การย้ำให้แต่ละประเทศตระหนักถึงความจำเป็นที่จะต้องร่วมมือกันควบคุมการแพร่ระบาด และต้องเปิดเผยหรือแบ่งปันข้อมูลที่เกี่ยวกับโรค เพื่อให้แต่ละประเทศนำไปปรับใช้ เพื่อให้สถานการณ์โรคระบาดเข้าสู่ภาวะที่สามารถควบคุมโดยเร็วที่สุดนั่นเอง

ที่มา: The Guardian/ World-O-Meter

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: