ไม่พบผลการค้นหา
"มิ่งขวัญ" ควงกรรมการบริหารพรรค แจงปมลูกพรรคยื่นยุบเศรษฐกิจใหม่ไร้มูล ประกาศจุดยืนชัดร่วมพรรคเพื่อไทย ฝ่ายประชาธิปไตย - ไม่เอาพลังประชารัฐ

จากรณีที่ ผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งของพรรคเศรษฐกิจใหม่ 3 ราย เข้ายื่นหนังสือถึงประธาน กกต. ขอให้ยุบพรรคเศรษฐกิจใหม่ และระงับการประกาศผลการเลือกตั้ง ส.ส.ของพรรคเศรษฐกิจใหม่ โดยอ้างว่า ถูกครอบงำจากบุคคลภายนอกที่สั่งการชี้นำ ไม่ให้พรรคสามารถดำเนินกิจกรรมได้โดยอิสระ ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 18 เม.ย. ที่ผ่านมานั้น

ล่าสุด เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 19 เม.ย. ที่ทำการพรรคเศรษฐกิจใหม่ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ หัวหน้าพรรค พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารพรรค นายสุภดิช อากาศฤกษ์ รองหัวหน้าพรรคคนที่ 1, นายภาสกร เงินเจริญกุล เลขาธิการพรรค, นายอภิวัฒน์ อากาศฤกษ์ นายทะเบียนสมาชิกพรรค, นายประพันธ์ เอี่ยมศิริ โฆษกพรรค, และนายบุญเลิศ เหลียงกอบกิจ กรรมการบริหารอื่นของพรรค ร่วมกันแถลงข่าวถึงกรณีดังกล่าว

นายมิ่งขวัญ กล่าวว่า สถานะตนเป็นหัวหน้าพรรค แต่ก่อนหน้านี้ นายสุภดิช เป็นผู้ก่อตั้งพรรคกับญาติสนิทมิตรสหาย นายสุภดิช เป็นหัวหน้าพรรคคนแรกของพรรคนี้ แล้วเชิญตนมาสมัครสมาชิก ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวตนจะไปอยู่พรรคหนึ่ง ตนก็ไม่ได้ไปอยู่ แต่มาอยู่เศรษกิจใหม่ เพราะ 1.ให้อิสระในการเขียนนโยบาย 2.จะเสนอให้เป็นนายกฯ และ 3.เสนอให้เป็นหัวหน้าพรรค 

นายมิ่งขวัญ กล่าวว่า ส่วนการบริหารภายในพรรค ตนแบ่งเป็น 2 ปีกคือ ปีกการร่างนโยบายระบบเศรษฐกิจใหม่ การพูดกับสาธารณชน โดยตนรับผิดชอบฝั่งนี้ ส่วนปีกการคัดเลือกผู้สมัครฯ สมัครสมาชิกพรรคก็มอบให้นายสุภดิชเป็นคนทำ ซึ่งชื่อเสียงนามสกุลของท่านพิสูจน์ได้ว่าเป็นคนดีหรือไม่ สรุปคือ ตนเขียนนโยบาย ออกดีเบต ทำคลิปให้สัมภาษณ์หาเสียงภาพรวม เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นจึงพูดคุยกับนายสุภดิช ที่จริงจะอยู่เฉยๆ ก็ได้ แต่จำเป็นต้องพูด แม้จะได้เพียง 6 เสียง แต่คนสนใจพรรคนี้เหลือเกิน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นตนเป็นหัวหน้าพรรคต้องรับผิดชอบ

มิ่งขวัญ พรรคเศรษฐกิจใหม่
  • นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ และกรรมการบริหารพรรคเศรษฐกิจใหม่

ด้านนายสุภดิช กล่าวว่า การตั้งพรรคการเมืองนี้เกิดจากเพื่อนสนิทมารวมตัวกัน ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นก็ช่วยกันออก สาเหตุที่เชิญนายมิ่งขวัญมาร่วมก็เพราะ มีความจงรักภักดี พิสูจน์เรื่องความซื่อสัตย์สุจริตแล้ว และมีความสามารถแก้ไขเรื่องเศรษฐกิจ ขอยืนยันว่า พรรคมีเอกภาพ ดำเนินการทางการเมืองยึดมั่นตามคำสัญญาที่ให้ไว้ รักษาคำพูด ยืนยันว่า ไม่มีงูเห่าแน่นอน

ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นมีบุคคลภายนอกมาครอบงำสมาชิกพรรคนั้น ยืนยันว่าไม่จริง เพราะบุคคลที่อ้างว่าเป็นคนครอบงำพรรคนั้นเป็นเพื่อนของตนที่ร่วมก่อตั้งพรรค และเป็นสมาชิกพรรคเมื่อวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา ส่วนพี่ชายก็เป็นผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อด้วย และที่ผ่านมาพรรคมีการจัดประชุมผู้สมัครส.ส. โดยแบ่งเป็นภาค

เมื่อถามว่า ได้คุยกับคนที่ไปยื่นยัง กกต. หรือยัง นายสุภดิช กล่าวว่า ไม่ได้คุย เขาทำผิดข้อบังคับพรรค ขอดูเรื่องกฎหมายก่อนว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ส่วนเรื่องมีเบื้องหน้าเบื้องหลังและจะส่งผลให้เกิดรอยร้าวในพรรคหรือไม่ นายสุภดิช กล่าวว่า ยังตอบไม่ได้ แต่พรรคนี้ไม่มีรอยร้าวแน่นอน

นายมิ่งขวัญ กล่าวเสริมว่า ไม่ทราบ ตอบไม่ได้จริงๆ จะไปสืบสาวราวเรื่องหรือไม่ ก็ไม่ใช่หน้าที่เรา เป็นหน้าที่ของ กกต.

ประกาศไม่ร่วมพลังประชารัฐ

เมื่อถามถึงจุดยืนว่า จะไปร่วมกับ พรรคพลังประชารัฐ หรือ พปชร. หรือไม่

นายมิ่งขวัญ กล่าวว่า ไม่ร่วม นับจากวันที่ 23 มี.ค.ก่อนเลือกตั้ง มีสำนักข่าวหนึ่ง บอกว่า ตนจะไปร่วมกับพรรคนั้นพรรคนี้ร่วมตั้งรัฐบาล ตนจึงขออ่านแถลงการณ์ครั้งนั้นทวนอีกครั้งว่า สูตรการจัดตั้งรัฐบาลเป็นวิจารณญาณของแต่ละท่าน แต่อาจก่อเกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน พรรคเศรษฐกิจใหม่จึงขอแถลงจุดยืนว่า ไม่อาจร่วม พชปร.ได้ เพราะอุดมกาณ์ทางการเมืองต่างกัน และประกาศจุดยืนมาทุกเวที ขอยืนยันว่า จุดยืนและอุดมกาณ์ดังกล่าว จะไม่เปลี่ยนแปลงใดๆ ทั้งสิ้น ขอทำงานร่วมกับฝั่งประชาธิปไตยและคำนึงถึงความซื่อสัตย์สุจริตและผลประโยชน์ของชาวไทย

ถ้ามีการกล่าวอ้างถึงประชาธิปไตย แต่ทำงานไม่ซื่อสัตย์จะขอถอนตัวออกมาทันที ลงวันที่ 23 มี.ค. ก่อนเลือกตั้ง 1 วัน ต่อมาเราก็ออกแถลงการณ์อีก เรื่องการเจรจาจัดตั้งรัฐบาล เพราะมีข่าวปล่อยออกมาเป็นระยะว่า จะร่วมกับ พปชร. โดยตนเจรจาต่อรองตำแหน่ง ขอระบุว่า ข่าวดังกล่าวไม่เป็นจริง ไม่เคยเจรจาทางการเมือง ลงวันที่ 13 เม.ย.

มิ่งขวัญ
  • นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ แถลงจุดยืนอยู่ฝั่งประชาธิปไตย ไม่ร่วมกับ พปชร.

"ผมไม่ได้ต้องการ ผมไม่มีความสุขกับแฮชแท็ก #ลุงมิ่งโป๊ะแตก จนแซงแบล็กพิงก์ จึงต้องออกมาบอกว่า ไม่ก็คือไม่ 1.ผมไม่ได้มีความรังเกียจ หรือโกรธ อะไรกับพปชร. เป็นคนรู้จักพี่น้องเพื่อนฝูงกันทั้งวงการ 2. อุดมการณ์ทางการเมืองแตกต่างกัน ผมก็บอกไม่ และ 3.หลายคนบอกเดี๋ยวเปลี่ยน เป็นงูเห่าตลอดเวลา ผมก็บอกว่า ไม่ ในวันลงนามสัตยาบันนั้น ไม่ได้ไปเพราะมีนัดผู้ใหญ่ขอดูคะแนนดิบ แต่เขามาเจรจากันตอนกลางคืน ก็บอกไปว่า จะเสียผู้ใหญ่ถ้าไม่ไป ก็ไม่มีอะไร" นายมิ่งขวัญกล่าว

เมื่อถามว่า จุดยืนยังอยู่กับพรรคเพื่อไทยใช่หรือไม่ นายมิ่งขวัญ กล่าวว่า "ชัดเจน ไม่เปลี่ยนแปลง ตั้งแต่ต้นจนจบ"

เมื่อถามว่า การมีคนไปฟ้องยุบพรรค เกี่ยวข้องกับจุดยืนที่ไม่ร่วมกับพรรคอีกฝ่ายหนึ่งหรือไม่ นายมิ่งขวัญ กล่าวว่า จุดยืนตนเหมือนเดิมตั้งแต่วันแรก ตัวเลขล่าสุดเศรษฐกิจใหม่ก็มี ส.ส.พึงมี 6.88 ซึ่งต้องได้ 7 แต่ไม่ว่าได้ 6 หรือ 7 เราจะอยู่จุดนี้ ไม่ไปอยู่ พปชร.

นายสุภดิช กล่าวว่า เรื่องทะเลาะเบาะแว้งไม่มี พรรคไม่ได้ทำอะไรผิดเลย ส่วน ส.ส.แต่ละคนจะเป็นอย่างไรนั้น พรรคนี้มีเอกภาพ ไม่ว่าจะเป็น 6 หรือ 7 จะไปทางเดียวกันทั้งหมด ไม่มีแยก 5 ต่อ 1 หรืออะไรแบบนั้นแน่นอน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง