ไม่พบผลการค้นหา
ย้อนรอยคดี "จิตรลดา" บุกแทงนักเรียนโรงเรียนดัง บาดเจ็บ 4 คน ก่อนพ้นโทษเข้ารักษาอาการทางจิตที่สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ สุดท้ายกลับมาอยู่บ้านที่ จ.นครปฐม ยังก่อเหตุสลดซ้ำ ใช้มีดแทงเด็กหญิงวัย 4 ขวบเสียชีวิต

จากกรณีเมื่อวานนี้ (30 มี.ค.2563) น.ส.จิตรลดา ตันติวาณิชยสุข อายุ 50 ปี อดีตผู้ต้องหาเคยก่อเหตุแทงเด็กนักเรียนเซนต์โยเซฟคอนเวนต์ เมื่อปี 2548 ได้ก่อเหตุใช้มีดปอกผลไม้แทงเด็กหญิงวัย 4 ขวบที่หน้าท้อง อาการสาหัส ก่อนเสียชีวิตที่โรงพยาบาล 

หากย้อนเหตุการณ์ไปเมื่อปี 2548 น.ส.จิตรลดา เคยก่อคดีสะเทือนขวัญในลักษณะแบบนี้มาแล้ว และเป็นข่าวที่ประชาชนคนไทยติดตามอยู่ห้วงเวลาหนึ่ง

บุกโรงเรียนดังแทงเด็กนักเรียนบาดเจ็บ 4 คน

เช้าวันที่ 9 กันยายน พ.ศ.2548 น.ส.จิตรลดา วัย 36 ปี แต่งตัวคล้ายผู้ปกครอง พกมีด 3 เล่ม เดินเข้าไปในโรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนแวนต์ แขวงสีลม เขตบางรัก กทม. ก่อเหตุใช้มีดแทงเด็กนักเรียน 4 คน เป็นนักเรียนชั้น ป.6 วัย 12 ปี จำนวน 1 คน และอีก 3 คนเป็นนักเรียนชั้น ม.2 วัย 14 ปี หลังก่อเหตุได้นั่งรถจักรยานยนต์รับจ้างให้ไปส่งที่ป้ายรถเมล์ตรงข้ามสถานีรถไฟหัวลำโพง

10 กันยายน 2548 เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าควบคุมตัว น.ส.จิตรลดา ได้ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ย่านจตุจักร หลังเจ้าของร้านโทรแจ้งว่า มีหญิงคนหนึ่งเข้ามาสมัครงานที่ร้าน หน้าตาคล้ายผู้ต้องสงสัยที่ปรากฏอยู่ในข่าว จากการสอบสวน น.ส.จิตรลดา ให้ปากคำว่า เป็นคนจังหวัดนครปฐม และสาเหตุที่กระทำนั้นเพราะได้ยินเสียงจากสวรรค์สั่งให้ทำ พนักงานสอบสวน ได้ดำเนินคดี 3 ข้อหาด้วยกัน คือ 1. พยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา 2. ทำร้ายร่างกาย และ 3. พกพาอาวุธมีดเข้าไปในที่สาธารณะ


ดาวน์โหลด.jpg.jfif


พบมีประวัติรักษาอาการทางจิต แต่ไม่ได้มารับยาอย่างต่อเนื่อง

13 ก.ย. 2548 เจ้าหน้าที่ตำรวจ นำตัว น.ส.จิตรลดา มารักษาอาการป่วยทางจิตที่สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ โดยแพทย์ที่เคยเป็นเจ้าของไข้ของ น.ส.จิตรลดา ระบุว่า น.ส.จิตรลดาเคยเข้ารับการรักษา เมื่อกว่า 10 ปีที่แล้ว เพราะรู้สึกว่าถูกทำคุณไสยศาสตร์ มีคนเสกของเข้าตัว หลังรับประทานยาอาการดีขึ้นจึงให้กลับบ้าน แต่คนไข้ไม่ได้มารับยาอย่างต่อเนื่อง


ศาลสั่งจำคุก 4 ปี เมื่อพ้นโทษแล้วให้คุมตัวรักษา

กระทั่งวันที่ 25 ธ.ค. 2549 พนักงานอัยการฝ่ายคดี อาญากรุงเทพใต้ ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.จิตรลดา ต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ ในความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่น และพกพาอาวุธไปในที่สาธารณะในเมือง หรือในหมู่บ้านโดยไม่มีเหตุอันควร

ต่อมา วันที่ 20 พ.ย. 2551 ศาลอาญากรุงเทพใต้ พิพากษาให้จำคุก 8 ปี แต่คำรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาลดโทษให้กึ่งหนึ่ง เหลือจำคุก 4 ปี เมื่อพ้นโทษจำคุกแล้วให้ส่งตัวจำเลยไปคุมตัวรักษาที่สถานกัลยาณ์ราชนครินทร์ จนกว่าจำเลยจะอยู่ร่วมในสังคมได้โดยไม่เป็นอันตรายต่อสังคม โดยให้แพทย์ผู้รักษารายงานผลต่อศาลทุก 6 เดือน 


photo-1544965838-54ef8406f868.jpg


โลกออนไลน์แชร์ "จิตรลดา" ถูกปล่อยตัวแล้ว

1 ส.ค. 2556 ในสังคมออนไลน์ได้แชร์ภาพของ น.ส.จิตรลดา ว่าได้ถูกปล่อยตัวแล้ว พร้อมมีข้อความเตือนให้ระวัง เพราะ น.ส.จิตรลดา ยังไปวนเวียนอยู่แถวบริเวณที่เคยก่อเหตุ ด้าน เจ้าหน้าที่สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ ระบุว่า น.ส.จิตรลดา ได้ออกจากสถาบัน และกลับไปอาศัยอยู่ที่ จ.นครปฐม ตามเดิมมานานกว่าปีแล้ว ขณะที่มารดา ยืนยันกับเจ้าหน้าที่ว่า น.ส.จิตรลดา อยู่แต่ภายในบ้านตลอด ไม่ได้ออกนอกบ้านไปไหน

ปี 2559 มารดาเผยยังกินยาต่อเนื่อง

เมื่อปี 2559 รายการข่าวดังข้ามเวลา ออกอากาศผ่านช่อง MCOT HD ได้เปิดเผยรายงานว่า น.ส.จิตรลดา ได้กลับมาอยู่บ้านที่จังหวัดนครปฐมแล้ว ขณะอยู่บ้านก็ได้ช่วยเหลือทำงานในสวน และยังต้องกินยาต่อเนื่องตามที่แพทย์สั่ง โดยน.ส.จิตรลดา สามารถกินยาได้เอง และเมื่อถึงวันหมอนัดก็จะบอก

ขณะเดียวกัน ผู้นำชุมชน ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการด้วยว่า อาการของน.ส.จิตรลดา เหมือนคนปกติทั่วไป บางครั้งเดินร้องเพลง และจากที่ไม่เคยช่วยงานสังคม ตอนนี้ถ้ามีงานอะไรก็จะไปช่วย เช่น ล้างจาน เสิร์ฟอาหาร ฯลฯ จนชาวบ้านรัก ไม่มีใครหวาดระแวง



จนกระทั่งล่าสุดเมื่อวานนี้ ได้ก่อเหตุสลดซ้ำอีก ใช้มีดแทงเด็กหญิงอายุ 4 ขวบ โดยก่อนเกิดเหตุ น.ส.จิตรลดาได้มาสั่งข้าวกล่องที่ร้านอาหารตามสั่งแห่งหนึ่ง ที่ จ.นครปฐม ระหว่างแม่ครัวกำลังทำอาหาร ก็ได้ยินเสียงหลานสาวร้องไห้เสียงดัง จึงวิ่งออกมาดูพบว่าหลานถูกแทงที่ท้อง จึงเรียกให้คนช่วยนำส่งโรงพยาบาลห้วยพลู อ.นครชัยศรี แต่ก็เสียชีวิตในเวลาต่อมา

พนักงานสอบสวน สอบปากคำมารดาของ น.ส.จิตรลดา ให้การว่าลูกสาวมีอาการป่วยทางจิต เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลมาหลายครั้ง และครั้งล่าสุดออกจากโรงพยาบาลมาได้ประมาณ 1 สัปดาห์ ส่วน น.ส.จิตรลดา ยังมีอาการป่วย เหม่อลอย ไม่ยอมพูด และไม่ยอมทานอาหาร ถูกนำตัวส่งไปที่ รพ.นครชัยศรี และถูกส่งตัวต่อไปยัง รพ.นครปฐม เพื่อเข้ารับการรักษา ขณะนี้อยู่ในความควบคุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างใกล้ชิด


ข่าวที่เกี่ยวข้อง :