ไม่พบผลการค้นหา
นายกฯ ซัด 'ก้าวไกล' ดูถูกสติปัญญา เหยียดหยามมากไป ยันไม่ได้ฉลาดน้อย พร้อมรับฟังทุกข้อเสนอ แต่กรุณาพูดดีๆ

วันที่ 3 ก.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ตอบโต้ไปยัง นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฏร ว่าวันนี้ตนเองได้มาฟังสมาชิกอภิปราย ซึ่งมีการพูดจาในลักษณะที่มีการเสียดสี ดูถูกสติปัญญา เหยียดหยามมากไปนิด ซึ่งตนก็ไม่ได้เอาเป็นตัวอย่าง ที่จะมาโมโหหรือมาโกรธ สำหรับในเรื่องของการลงทุนคมนาคม การจัดทำต่างๆ ต้องไปศึกษาในรายละเอียด ซึ่งต้องทำทั้งส่วนใหม่และส่วนเดิมไปพร้อมกัน

ตนไม่ใช่คนที่ฉลาดน้อย เพราะฉะนั้นอย่าดูถูกสติปัญญาของตนมากนัก สำหรับการลงทุนของภาครัฐ หากลงทุนเองก็จะใช้งบประมาณจำนวนมาก โดยการลงทุนแบบรัฐบาลร่วมกับเอกชน ที่มีการประมูล ทำอย่างโปร่งใสนั้น ก็จะสามารถลดงบประมาณของภาครัฐลงไปได้ 

ขณะเดียวกัน ต้องลดรายจ่าย และเพิ่มรายได้ให้กับประชาชน ดังนั้นจึงอยากถามว่า หากทำตาม มีคนได้ทั้งหมด ประเทศจะเอาเงินจากที่ไหน จึงต้องเสนอในเรื่องของการมีรายได้ของประชาชน ที่ต้องช่วยกันคิดและเสนอแนะ และตนไม่ได้คิดคนเดียว ไม่เคยไปอนุมัติให้ใครเป็นกรณีพิเศษ การเสนอแผนต่างๆ ขึ้นมานั้น ต้องผ่านคณะกรรมการกลั่นกรองทุกระดับ

ยืนยันที่ผ่านมาไม่เคยไปเรียกผลประโยชน์จากใครทั้งสิ้น และพร้อมรับฟังความเห็นของสมาชิกสภาทุกคน ที่มาถกเถียงกับตน แต่ตนไม่ไปถกเถียงด้วย มีการใช้คำพูดที่แรงไป ตนก็ไม่ไปเถียง เพราะตนเถียงสู้ไม่ได้ สมาชิกเป็นอาจารย์เก่า เป็นที่ปรึกษาที่ต่างๆ ทั้งบริษัทใหญ่ และสถาบันต่างๆ ซึ่งตนดูประวัติมา ก็ถือว่าเป็นคนเก่ง แต่ตนไม่เก่งเท่า แต่ตนจริงใจ เพราะจะพูดในสิ่งที่ทำได้ สิ่งที่เป็นวิสัยทัศน์ สิ่งที่อาจจะถูกหรือไม่ถูก ก็ต้องไปหาวิธีการทำ ซึ่งตนก็หาวิธีปรับได้ 

"การใช้คำว่า ทำโง่ๆ ออกไป คนที่เหลือก็ต้องมาทำโง่ๆ ตามด้วยนั้น ขอยืนยันผมไม่ใช่คนแบบนั้น พร้อมที่จะแก้ไข พร้อมจะรับฟังข้อเสนอ แต่ขอให้พูดจาดีๆ กว่านี้ ซึ่งจะเป็นสิ่งที่ดีกว่า" 

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึง การจัดซื้อเรือดำน้ำ ต่อที่ประชุมสภาว่าเรื่องนี้ได้ชี้แจงไปหลายรอบแล้ว ไม่ว่าจะชื้ออะไรก็แล้วแต่ ก็ต่างขัดข้องไปเสียหมด ซึ่งได้เคยชี้แจงถึงเหตุผลความจำเป็นไปหมดแล้ว ไม่ใช่รัฐบาลและกระทรวงกลาโหม ไปชื้อเรือดำน้ำที่ดำไม่ได้ ตนมองว่าทางเทคนิคนั้นทำได้หมด เพราะฉะนั้นจะชื้ออะไรก็ตามต้องมีเหตุผลและมีความโปร่งใส 

นายกรัฐมนตรี ยังนำคำพูดของสมาชิกที่มีการพูดในที่ประชุม ว่านายกรัฐมนตรี บอกว่ายินดีกับการที่สมาชิกได้กล่าว “ได้เดินทางมาถึงจุดสุดท้ายของท่านแล้ว” ซึ่งคำพูดเสียดสีตนนั้น ตนไม่ถือสา ถือว่าตนอาวุโสกว่า พร้อมขอบคุณคำแนะนำอันเป็นประโยชน์ และที่ไม่เป็นประโยชน์ด้วย และขอฝากให้ประชาชนช่วยกันแยกแยะด้วย รวมถึงขอโทษสมาชิกคนอื่นๆ ด้วย ที่ต้องฟังเรื่องนี้ ซึ่งไม่อยากพูดแบบนี้ และไม่ได้โมโหใครเลย ตนยิ้มแย้มตลอดเวลา

‘สุรเชษฐ์’ จวกงบลงทุน บูรณาการอย่างไม่เข้าใจ สร้างทางรถไฟแข่งกับโทลเวย์

นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายตอนหนึ่งว่า เมื่อวันที่ 2 ก.ค.ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีได้พูดถึงประเด็นเกี่ยวกับคมนาคม ทางถนนภาคใต้และสนามบิน นายกฯต้องเข้าใจระบบในการบริหารงบประมาณที่ดีไม่ควรที่จะเป็นลักษณะมือใครยาวสาวได้สาวเอา ใครมาขอก็ให้ถ้าเกรงใจใครก็ให้ก็คงไม่ใช่ อย่างไรก็ตามถนนภาคใต้ได้ไปดูจริงๆแล้วพบว่ามีปัญหาจริงๆสมควรได้รับงบประมาณ แต่ควรได้รับด้วยเหตุผลของมันเมื่อเทียบกับที่อื่นไม่ใช่ได้รับงบประมาณเพราะใครมาขอ สนามบินตรังก็เช่นกัน การอนุมัติของรัฐบาลให้สนามบินตรังหมายความว่าเป็นการใช้ภาษีประชาชนเพื่อเสียผลประโยชน์ทางการเมืองใช่หรือไม่ 

นายสุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า ส่วนที่นายกฯระบุว่าจะเปลี่ยนแปลงยุทธศาสตร์คมนาคมในประเทศนั้น ตนขอขอบคุณท่านนายกที่เข้าใจว่าคมนาคมของประเทศมีปัญหาจริงๆ แต่ปัญหาก็มาจากที่ท่านรัฐประหาร ยุทธศาสตร์มั่วซั่วเกิดขึ้นเมื่อปี 2557 และเรื่อยมา ดังนั้นจึงต้องดีใจที่นายกรัฐมนตรีคิดจะปรับปรุง 

“ส่วนประเด็นที่นายกระบุว่าจะสร้างทั้งทางรถไฟ ถนน และทางระบายน้ำแล้วบอกว่าเป็นการบูรณาการ ผมอยากถามว่าท่านเข้าใจคำว่าบูรณาการมากน้อยเพียงใด บูรณาการไม่ใช่การต้องทำทุกอย่างพร้อมกัน อย่างการทำถนนกับทางรถไฟพร้อมกันถือเป็นการแย่งลูกค้ากันเอง แทนที่จะทำที่เดียวกันซ้อนกัน ถ้าทำถนนเส้นทางนี้ แล้วทำทางรถไฟไปอีกทางหนึ่ง มันจะคุ้มกว่าและเปิดพื้นที่การพัฒนาได้มากขึ้น นายกรัฐมนตรีต้องเข้าใจ ไม่ใช่อยากอย่างเดียว ท่านนายกบอกว่าถ้าต้องการให้เกิดเมืองใหม่ ทำแบบเดิมไม่ได้ผมเห็นด้วย แต่ที่ท่านตั้งงบประมาณมายังไม่ใช่ ท่านอยากจะสร้างแต่ถนน จะกินหัวคิวกันหรือเปล่าก็ไม่รู้” นายสุรเชษฐ์ กล่าว