ไม่พบผลการค้นหา
บริษัทอเมริกัน ผู้นำเข้าภาพยนตร์สัญชาติเกาหลีใต้ Parasite ทวีตข้อความเสียดสี ปธน.ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ว่า "อ่านไม่ออก" หลังทรัมป์วิจารณ์กรณีที่หนังกวาดรางวัลใหญ่จากเวทีออสการ์ปีนี้ไปครอง โดยระบุว่า "เป็นเรื่องบ้าอะไรก็ไม่รู้"

โดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ขึ้นเวทีหาเสียงและกล่าวพาดพิงภาพยนตร์จากเกาหลีใต้ Parasite ที่ได้รางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และสาขาอื่นอีก 3 สาขา จากพิธีประกาศผลรางวัลปี 2563 โดยทรัมป์กล่าวว่า "ออสการ์ปีนี้แย่แค่ไหนเหรอ? เห็นว่าหนังเกาหลีใต้ได้รางวัลใหญ่ นี่เป็นเรื่องบ้าอะไรก็ไม่รู้" พร้อมกับอธิบายต่อว่า สหรัฐฯ กำลังมีปัญหาขัดแย้งด้านการค้ากับเกาหลีใต้ แต่เวทีออสการ์กลับมอบรางวัลใหญ่ให้กับหนังจากเกาหลีใต้ 

ทรัมป์ระบุว่า "หนังดีหรือเปล่า ผมไม่รู้" ซึ่งเป็นการยอมรับกลายๆ ว่าเขายังไม่ได้ดูภาพยนตร์เรื่องนี้ และถ้าเป็นไปได้ เขาอยากให้ภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาคล้ายกับผลงานยุคเก่าของฮอลลีวูดได้รับรางวัลออสการ์มากกว่า โดยเอ่ยชื่อภาพยนตร์ขึ้นมา 2 เรื่อง คือ Gone with the wind และ Sunset Boulevard

ขณะที่ 'เดอะการ์เดียน' อธิบาย Gone with the wind เป็นภาพยนตร์ที่ถูกวิจารณ์ว่าสนับสนุนแนวคิดเหยียดเชื้อชาติ เพราะบอกเล่าความสัมพันธ์ระหว่างนายทาสผิวขาวและทาสผิวดำ โดยระบุว่า ขบวนการเหยียดเชื้อชาติที่ใช้ความรุนแรงอย่างคลูคลักซ์แคลน (KKK) ในอดีต เป็น 'ความจำเป็นอันน่าเศร้า' ของสังคมอเมริกัน

อย่างไรก็ตาม ผู้รับฟังคำปราศรัยของทรัมป์ระหว่างการหาเสียงที่เมืองโคโลราโดสปริงส์ มลรัฐโคโลราโด ส่งเสียงเชียร์เมื่อทรัมป์กล่าวพาดพิงภาพยนตร์เรื่องพาราไซต์

ส่วนบริษัทนีออน ซึ่งเป็นผู้นำภาพยนตร์ดังกล่าวเข้ามาฉายในสหรัฐฯ ทวีตข้อความตอบโต้หลังจากที่คำปราศรัยของทรัมป์กลายเป็นข่าว โดยระบุว่า "เข้าใจได้แหละ เขาอ่านไม่ออก" ซึ่งเป็นการอ้างอิง 'บงจุนโฮ' ผู้กำกับภาพยนตร์ 'พาราไซต์' ที่ขึ้นกล่าวขณะรับรางวัลบนเวทีออสการ์ว่า "หากคุณก้าวข้ามกำแพงสูง 1 นิ้วที่เรียกว่าซับไตเติ้ลไปได้ คุณจะได้รู้จักภาพยนตร์ยอดเยี่ยมอีกมากมาย" พร้อมย้ำด้วยว่า "ผมคิดว่าเราใช้อยู่แค่ภาษาเดียว คือ ภาษาหนัง" 

อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ทวิตเตอร์ที่เห็นต่างจากนีออน ทวีตข้อความสนับสนุนทรัมป์ โดยระบุว่า การตั้งคำถามเรื่องรางวัลเป็นสิทธิที่เขาสามารถกระทำได้ แต่ผู้ใช้ทวิตเตอร์อีกหลายรายตอบโต้ว่า ทรัมป์ไม่สามารถทำความเข้าใจในประเด็นทางสังคมที่ปรากฏหนังได้เอง และบางรายระบุว่า นักแสดงในภาพยนตร์ที่ทรัมป์ระบุว่าเหมาะสมกับรางวัลออสการ์หลายคนเป็นชาวต่างชาติ หรือ 'แรงงานต่างด้าว' ที่ทรัมป์ต่อต้านมาโดยตลอด

ส่วน 'บงจุนโฮ' ได้รับเชิญเข้าพบ 'มุนแจอิน' ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ที่ทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงโซลในวันที่ 21 ก.พ. หลังทรัมป์แสดงความคิดเห็นเสียดสีหนังของเขา 1 วัน โดย ปธน.มุน ยกย่องพาราไซต์และบงจุนโฮที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศภาคภูมิใจ พร้อมระบุว่า รัฐบาลของเขาจะส่งเสริมวงการภาพยนตร์ แต่จะ 'ไม่แทรกแซง' ใดๆ

ที่มา: Hankyoreh/ The Guardian/ Newsweek

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: