ไม่พบผลการค้นหา
ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ วิจารณ์ พล.อ.อภิรัชต์ ไม่อยู่ในร่องในรอย แสดงออกทางการเมือง ทั้งทางตรงและทางอ้อม แต่กลับบอกไม่ยุ่งกับการเมือง รวมถึงมีการกล่าวให้ร้ายต่อคนร่วมชาติ

นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ วิพากษ์วิจารณ์ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. ผ่านเฟซบุ๊ก โดยระบุ 4 เหตุผลที่ทำให้เชื่อได้ว่าพล.อ.อภิรัชต์ น่าจะเป็นบุคคลที่ไม่อยู่ในร่องในรอยที่สุดคนหนึ่งของกองทัพไทย

1. ท่าทีการให้สัมภาษณ์ครั้งล่าสุดของพล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผมคิดว่าพลเอกอภิรัชต์ยังคงมีวิธีการมองฝ่ายต่าง ๆ ด้วยความต้องการที่จะระบุศัตรูอยู่ตลอดเวลา ที่ผ่านมาก็เป็นเช่นนี้และในวันนี้ก็ยังคงเป็นอยู่ ใจความสำคัญของการให้สัมภาษณ์ครั้งนี้ก็ยังคงไม่เปลี่ยนไปคือ พลเอกอภิรัชต์พยายามอย่างยิ่งที่จะบอกกับสังคมว่าใครก็ตามที่คิดแตกต่างไปจากกองทัพนั้นก็คือศัตรู

2. พล.อ.อภิรัชตน์นำการต่อสู้ด้านข้อมูลข่าวสารในยุคโซเชียลมีเดียปัจจุบันไปเทียบกับการต่อสู้กับคอมมิวนิสต์ในยุคเก่าเมื่อราว 50-60ปีก่อน ราวกับคนที่มีอาการหลอนเหมือนถูกผีหลอก (น่าจะเข้าข่ายหลอกตัวเองมากกว่า) สะท้อนให้เห็นว่าภูมิปัญญาของกองทัพไทยไม่ได้ก้าวไปข้างหน้าเช่นเดียวกับโลกสากลเลย

3. พล.อ.อภิรัชต์บอกว่ากองทัพกำลังสู้รบกับโซเชียลมีเดีย เป็นสงครามไซเบอร์ แต่อันที่จริงแล้วหัวใจสำคัญของโซเชียลมีเดียคือการเชื่อมข้อมูลข่าวสารให้ถึงผู้รับสารได้มากที่สุด โดยที่ใช้ต้นทุนต่ำที่สุด ปล่อยให้ผู้รับสารได้เป็นคนตัดสินใจจะชั่งน้ำหนักความน่าเชื่อถือต่าง ๆ ด้วยตนเอง และในหลายครั้งก็ใช้เพื่อต่อสู้ให้คนตัวเล็ก ๆ ในสังคมได้มีที่ยืนเพื่อปกป้องสิทธิและเสรีภาพรวมถึงเรียกร้องคุณภาพชีวิตและความยุติธรรมในกรณีต่าง ๆ ให้ดีชึ้น

"คนรุ่นใหม่ก็เติบโตท่ามกลางการใช้โซเชียลมีเดียเช่นนี้ พวกเขามีสติและมีประสบการณ์ซึ่งผมคิดว่าคนรุ่นใหม่คงไม่จำเป็นต้องได้รับความเป็นห่วงเป็นใยจากกองทัพหรอกครับ เพราะพวกเรากรองข่าวกรองข้อมูลข้อเท็จจริงกันเองได้ เป็นห่วงก็แต่รัฐบาลที่สืบทอดอำนาจจากคสช. กองทัพที่อยู่เบื้องหลังทางการเมืองที่ใช้โซเชียลมีเดียเพื่อโฆษณาชวนเชื่อต่อประชาชนอย่างไม่มีความแนบเนียนเหมือนที่เห็นกันอยู่ตลอดเวลามากกว่า"

4. พล.อ.อภิรัชต์ไม่ค่อยอยู่ในร่องในรอยเท่าที่ควร เห็นได้จากที่พล.อ.อภิรัชต์พูดเรื่องการเมืองมาตลอดเวลาในการให้สัมภาษณ์ กระทั่งย้อนกลับไปในห้วงเวลาที่ผ่านมาก็แสดงออกทางการเมืองมาตลอดทั้งในทางตรงและทางอ้อม แต่กลับบอกว่าตนจะไม่ยุ่งกับการเมืองในยุคสมัยรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ทั้งที่เรื่องที่ตนเองพูดอยู่นั่นก็คือการเมืองนั่นเอง

หลายครั้งแล้วที่นายทหารคนนี้พยายามให้ร้ายต่อคนร่วมชาติที่เขามองว่าเป็นศัตรู (ทุกท่านยังคงจำวาทกรรม "หนักแผ่นดิน", "ซ้ายจัดดัดจริต", "ไม่นึกถึงแผ่นดินเกิดก็ไม่สมควรอยู่เมืองไทย" กันได้ใช่ไหมครับ) ฉะนั้นแล้วพี่น้องประชาชนท่านใดที่เห็นว่าโครงสร้างทางการเมืองที่เป็นอยู่นี้ควรถูกเปลี่ยนแปลง ทหารต้องเลิกแทรกแซงการเมือง ประเทศยังต้องเป็นประชาธิปไตยให้ได้มากกว่านี้ ขอให้ระมัดระวังนายทหารคนนี้ให้ดี ในวันนี้เขาได้แต่แยกเขี้ยวใส่เรา แต่วันใดที่เราเผลอหันหลังให้ เขาอาจกระโจนเข้ากัดทึ้งเราโดยไม่รีรอ

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :