ไม่พบผลการค้นหา
ดีเดย์นัดหมายมวลชนระดมพลลงถนน 'อนุุสาวรีย์ประชาธิปไตย' เวลา 14.00 น. วันที่ 14 ต.ค. 2563 ต้องถูกขยับเข้ามาไวขึ้นกว่าเดิม เป็นการขยับที่ไวขึ้นหลังการประกาศท่าทีของ แกนนำคณะราษฎร ปีก สนท. นามว่า 'เพนกวิน' พริษฐ์ ชิวารักษ์ นัดหมายเคลื่อนมวลชนจากบ่ายสองมาเป็น 08.00 น.วันที่ 14 ต.ค.

ดีเดย์ไวขึ้น ส่งสัญญาณโดยตรงเปรียบใช้ยุทธวิธีแตกหัก!

หลังแกนนำม็อบได้กลิ่นกำลังถูกข้าศึกฝ่ายตรงข้ามเข้าประชิดปิดล้อมจุดยุทธศาสตร์ 'อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย'

"แต่เนื่องจากมีกลุ่มบุคคลพยายามเข้ามาแย่งชิงพื้นที่ชุมนุม ผมจึงขอประกาศให้พี่น้องทุกท่านมารวมพลที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยกันตั้งแต่เวลา 08.00 น. เพื่อจับจองพื้นที่ชุมนุมของพวกเรา ผมเองจะไปรอเจอทุกท่านที่นั่น ขอให้ทุกท่านมาพิทักษ์อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยโดยพร้อมเพรียง”

ท่าทีดังกล่าวทำให้ 'อานนท์ นำภา' แกนนำคนสำคัญของม็อบคณะราษฎร 2563 ต้องยอมรับว่าการเร่งเข้าชิงพื้นที่แบบแตกหักครั้งนี้ อาจพบจุดจบสองทางเลือก คือ 1.ถูกจับ และ 2.ถูกกระทืบจากฝ่ายตรงข้าม

"ตอนนี้เขาปิดล้อมไว้หมดแล้ว พูดกันตรงๆ ผมไม่คิดว่าเราจะตื่นไปทัน 8 โมงเช้า และถ้าแกนนำไปถึงราชดำเนิน 8 โมงเช้า ถ้าไม่โดนจับก็โดนกระทืบตายจากพวกนั้นแน่ๆ” อานนท์ ระบุผ่านเฟซบุ๊กทันทีที่ข้ามคืนเข้าสู่วันที่ 14 ต.ค. 2563

ทนายอานนท์.jpg

ท่าทีแตกหักเพื่อเข้ายึด 'สมรภูมิ' ถนนราชดำเนินยังเกิดขึ้นหลัง แนวร่วมจากคณะราษฎรอีสาน นำโดย จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ “ไผ่ ดาวดิน” แกนนำกลุ่มดาวดิน ไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือ “แอมมี่ The Bottom Blues” และกลุ่มผู้ชุมนุม รวม 21 รายที่รวมตัวกันบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย หน้าร้านแมคโดนัลด์ ถนนราชดำเนิน ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวไปที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดน ภาค 1 (ตชด.ภ.1) ต.คลองห้า อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 13 ต.ค. 2563

ทำให้ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ร่อนเอกสารถึงการควบคุมกลุ่มผู้ชุมนุมจำนวน 21 ราย เพื่อส่งพนักงานสอบสวน สน.สำราญราษฎร์ ดำเนินคดี 8 ข้อหา ประกอบด้วย 1.ขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน ป.อาญา มาตรา 368

2.มั่วสุม 10 คนขึ้นไป ก่อให้เกิดความวุ่นวาย ป.อาญา มาตรา 215

3.กีดขวางจราจร พ.ร.บ.ทางบก มาตรา 114 และ 148

4.กีดขวางขยะ พ.ร.บ.ความสะอาด มาตรา 19,39,40,32

5.สาดสีลงพื้นถนน พ.ร.บ.ความสะอาด มาตรา 12

6.กีดขวาง ป.อาญา มาตรา 385

7.สาดสีใส่ เจ้าหน้าที่ทำให้เสียทรัพย์ ป.อาญา มาตรา 358

และ 8.ใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง พ.ศ.2493 มาตรา 4 และ 9

แอมมี่ ไผ่ ดาวดิน 60695171134129_7162110036082178411_o.jpgอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย  ไผ่ ดาวดิน ม็อบ 32721496_6998187166632337612_n.jpg

ปฏิเสธไม่ได้ว่าการดำเนินการจับกุม 21 รายของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยิ่งเติมเชื้อไฟให้กับม็อบคณะราษฎรและแนวร่วมก่อนถึงวันชุมนุมใหญ่ 14 ต.ค. ซึ่งเป็นวันเชิงสัญลักษณ์ครบรอบ 47 ปี เหตุการณ์ 14 ต.ค. 2516 ที่ประชาชนโค่นล้มรัฐบาลเผด็จการ จอมพลถนอม กิตติขจร

47 ปีหวนมาบรรจบ ศักราช 2563 รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องเผชิญหน้ากับม็อบที่เรียกร้องประชาธิปไตย ไม่ต่างจาก รัฐบาลจอมพลถนอม 

ภาณุพงศ์ ปนัสยา ทัตเทพ คณะราษฎร สนามหลวง แฟลชม็อบ  3201008.jpg

ข้อเรียกร้องของคณะราษฎร 2563 ยืนยัน 3 ข้อ คือ 1.ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและองคาพยพ ออกจากตำแหน่ง

2.ให้สภาฯ เปิดประชุมสมัยวิสามัญ เพื่อรับร่างพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญ ของประชาชน

และ 3.ปฏิรูปสภาบันพระมหากษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ

ขณะที่ 'อานนท์ นำภา' ได้ย้ำถึงยุทธวิธีการชุมนุมก่อนหน้านี้ว่าให้เตรียมสัมภาระอย่างน้อย 7 วัน เพื่อทำตามแผน 'กินทีละคำ' 

'กินทีละคำ' ในยุทธวิธีของม็อบคณะราษฎร 2563 แหล่งข่าวด้านความมั่นคง มองการเคลื่อนไหวของม็อบคนรุ่นใหม่ครั้งนี้ว่า อย่าประเมินการเคลื่อนไหวของม็อบต่อต้านเผด็จการผิดไป เพราะยุทธศาสตร์กินทีละคำ เป้าหมายคือพุ่งเป้าและนวด พล.อ.ประยุทธ์ ให้เสื่อมศรัทธาไปเรื่อยๆ 

"เมื่อข้อเรียกร้องแรก พล.อ.ประยุทธ์ ไม่มีความชอบธรรมในการเป็นนายกฯแล้ว ก็จะส่งผลถึงความเชื่อมั่นภายในพรรคร่วมรัฐบาลด้วย โดยเฉพาะพรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ จะต้องคิดและตัดสินว่าจะร่วมลงเรือลำเดียวกับ พล.อ.ประยุทธ์ต่อไปหรือไม่ หากสองพรรคนี้ถอนตัวก็เท่ากับว่า รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์จะไปต่อไม่ได้"

ยุทธศาสตร์กินทีละคำ ของม็อบปลดแอก จึงต้องเข้าตีทีละคำด้วยการเปิดเกมทำลายความชอบธรรม พล.อ.ประยุทธ์ ก่อน การเคลื่อนมวลชนไปทำเนียบรัฐบาล จึงไม่ได้มีผลอะไรต่อพล.อ.ประยุทธ์มากนัก เพียงแต่การปักหลักชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย คือ การนวด พล.อ.ประยุทธ์ ไปเรื่อยๆ นี่คือแผนและยุทธวิธีที่ 'ม็อบปลดแอก' นำมาใช้

"จากนั้นจึงรุกในยุทธศาสตร์ที่สอง คือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในขณะที่คำที่สามเรื่องการปฏิรูปสถาบัน ก็เป็นข้อเสนอที่ต้องการให้สถาบันอยู่ในกรอบกติกตาตามรัฐธรรมนูญเท่านั้น" แหล่งข่าวระบุ

08.00 น. 14 ต.ค. 2563 ยุทธวิธี 'กินทีละคำ' จะขยับไปได้แค่ไหน จะสำเร็จตามแผนที่คาดไว้หรือไม่

หากแกนนำม็อบคณะราษฎร ต้องสังเวยด้วยการถูกจับตามที่ 'อานนท์' คาดการณ์ไว้ หรือสามารถปักหลักยึดคืนสมรภูมิราชดำเนินได้สำเร็จ

ไม่ว่าจะมีผลออกมาทางใดก็ตาม ก็ถือว่า ยุทธวิธีกินทีละคำเริ่ม 'แตกหัก!' แล้ว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง