ไม่พบผลการค้นหา
‘เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น’ ทนกระแสดรามาไม่ไหว ออกมาไลฟ์สดเคลียร์ปมค่าตัวนักร้องรุ่นน้อง ‘เก้า เกริกพล’ และประเด็นร้อนแรงที่ถูกออกมาแฉต่อเนื่อง ย้ำไม่เคยโกงใคร

'รัชนก สุวรรณเกตุ' หรือ 'เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น' ไลฟ์สดผ่านเพจเฟซบุ๊ก ‘น้องเจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น’ เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 2563 เคลียร์กระแสข่าวดรามาลากยาวมาตั้งแต่เรื่องการแสดงคอนเสิร์ตใน จ.กระบี่ และ จ.นครศรีธรรมราช ที่ไม่มีมาตรการป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ดีพอ และมีการเช็ดเหงื่อโยนแจกให้แฟนเพลงถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง จนถึงเรื่องนักร้อง 'เก้า เกริกพล' ออกมาทวงถามเรื่องค่าตัว และค่าส่วนแบ่งรายได้ อีกทั้งสารพัดประเด็นที่ถูกขุดออกมาแฉ

นักร้องสาวคนดังเริ่มด้วยการออกตัวว่า “หลังจากนี้ใครจะตัดสินยังไง หรือใครยังจะมองหนูยังไง ยังจะรักหนูหรือเปล่า หรือว่าใครยังอยากจะเข้ามาด่าหนู หนูก็ไม่ได้ว่าอะไรแล้ว เพราะว่าอย่างน้อยหนูได้มาพูดในส่วนของหนูแล้ว”

ต่อด้วยการชี้แจงทีละประเด็น เริ่มจากประเด็นส่วนแบ่งรายได้ยูทูบเพลงเลิกคุยทั้งอำเภอเพื่อเธอคนเดียว 70% ต่อ 30% เรื่องค่าตัวของ เก้า เกริกพล ตัวเลข 3,000 บาท เป็นข้อเสนอที่ชักชวนให้มาเป็นศิลปินในค่าย ‘ได้หมดถ้าสดชื่น’ แต่ไม่เกิดขึ้น นักร้องสาวยืนยันว่า ทุกคนรู้ น้องเก้ารู้ พ่อน้องเก้ารู้ แต่เรื่องทั้งหมดลุกลามเมื่อมีเพจหนึ่งที่โจมตีตนมาตลอดนำเรื่องนี้ไปโพสต์เป็นประเด็นจนเกิดกระแสข่าวดรามา

“มีข้อเสนอหลักๆ ที่คุยกันก่อนจะปล่อยเพลงเลิกคุยทั้งอำเภอเพื่อเธอคนเดียว ข้อแรก คือ ถ้าน้องเก้าเป็นศิลปินค่ายจะแบ่งค่ายอดวิวให้ 30% ในทุกๆ เพลงที่จะทำร่วมกัน ข้อที่ 2 เรื่องค่าตัว 3,000 บาท ฝั่งน้องออกมาบอกว่าเป็นค่าตัวที่หนูให้เป็นค่าตัวเดินทางจากกรุงเทพฯ ลงมาภาคใต้ ซึ่งจริงๆ เป็นไปไม่ได้ 3,000 บาท แค่ค่าเดินทางก็หมดแล้ว แต่ข้อเท็จจริง คือ 3,000 บาท ถ้าน้องเก้ามาเป็นศิลปินแล้วเจ้าภาพไม่จ้าง ก็จะเอาเงินค่าตัวของหนูแบ่งให้น้องเก้าเอง ถ้าทำเพลงร่วมกันจะเป็นภาพที่ดีมากๆ หากมีศิลปินผู้ชายอยู่ร่วมค่ายด้วย จึงเสนอไปแบบนี้ ถ้าทุกคนถามว่า 3,000 บาท ทำไมน้อยจัง ตอนนั้นยังไม่ได้ปล่อยเพลง ไม่มีใครรู้ว่าเพลงจะดังหรือไม่ดัง ถ้ามาเทียบกับตอนนี้ค่าตัวน้องเก้าก็คงพุ่งแล้ว คงไม่ใช่ 3,000 บาทแล้ว”  

เจนนี่บอกด้วยว่า ปัญหาเรื่องนี้ได้พยายามติดต่ออธิบายคุณพ่อน้องเก้าแล้วว่า ส่วนแบ่ง 30% คงแบ่งให้ไม่ได้ เพราะไม่ได้เข้ามาเป็นศิลปินในสังกัดตามที่ตกลงกันแต่แรก และเมื่อไปปรึกษาผู้ใหญ่ที่เคารพว่าควรทำอย่างไรดีกับเรื่องนี้ จึงได้คำแนะนำมาว่าควรแบ่งให้เป็นค่าน้ำใจไป แต่หลังจากเกิดเรื่องคุณพ่อของน้องเก้าไม่ยอมรับสายอีกเลย เคยโอนเงินให้น้องเก้าไป 20,000 บาท แต่น้องเก้าโอนกลับมาคืนบอกว่าไม่สบายใจที่จะรับไว้ 

ต่อที่ประเด็น ค่าออกรายการ 500 บาท ถามว่ามีจริงไหม ก็ต้องบอกว่ามี บางรายการให้มากบางรายการให้น้อย แต่ถ้ารายการไหนให้ 10,000 บาท ไม่มีทางแบ่งให้ 500 บาทแน่นอน ต่างคนต่างรู้ดีว่าการไปออกรายการคือการไปโปรโมทตัวเอง ได้มากแบ่งมากได้น้อยแบ่งน้อย 

ส่วนประเด็นนักดนตรีที่ออกมาแฉจ้างรายเดือนแต่ไม่จ่าย ยืนยันว่าคนโพสต์ข้อความดังกล่าวไม่ใช่นักดนตรีของทางค่าย ถ้าเป็นคนในจริงต้องรู้ว่าในค่ายอยู่กันอย่างไร และนักดนตรีในค่ายก็ไม่มีใครเดือดร้อน ซึ่งล่าสุดคนที่โพสต์ได้ออกมาโพสต์ขอโทษแล้ว สำหรับประเด็นของ นักร้องสาวในค่ายได้ลาออกจากค่ายไป ซึ่งเป็นการตัดสินใจส่วนตัว ถ้าหากไม่เห็นด้วยกับข้อตกลงในค่าย

"หนูทำให้ถูกใจทุกคนไม่ได้ หนูทำให้ถูกต้องได้ แต่บางคนมาด่าไม่ลืมหูลืมตา ด่าคำหยาบคาย หลังจากนี้ใครจะเชื่อก็เชื่อ ไม่เชื่อก็ไม่อะไร หนูจะยืนหยัดต่อสู้ อดทน ต่อไป อยากให้เวลาเป็นคำตอบสำหรับทุกเรื่อง หนูไม่สามารถปิดค่ายเพลงตามที่ทุกคนบอกได้ เพราะยังต้องสร้างอนาคตให้กับน้องๆ ฝั่งโน้นจะออกมาพูดอะไรหรือจะมีใครออกมาพูดอะไร หนูจะอดทนแล้วมันจะผ่านไป"