ไม่พบผลการค้นหา
แม้มหากาพย์ปม ‘ถวายสัตย์ฯ’ จะจบลงที่สภาแล้ว แต่ก็มีเรื่องใหม่ขึ้นมาในช่วงการอภิปรายในสภา หลังมีการจับตาที่ไปเอกสารบนโต๊ะของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม ที่มีเอกสาร ‘โครงข่ายขบวนการทำลายประเทศ’ โดยมีภาพหน้าปกเป็นเหตุระเบิดในพื้นที่กรุงเทพฯ

ขบวนการเหล่านี้ ไม่มีใครทราบรายละเอียดเท่า พล.อ.ประยุทธ์ ที่ถือเอกสารด้วยตนเอง ท่ามกลางการวิจารณ์ว่า ‘จงใจ’ หรือ ‘เจตนา’ ให้สื่อเห็นหรือไม่ ?

ซึ่ง ‘ดร.แหม่ม’นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า นายกฯไม่ได้เจตนาให้เห็น เพราะเป็นเอกสารชั้นความลับ ที่ฝ่ายความมั่นคงเสนอมา ซึ่งตนเข้าใจว่าจากการเตรียมเอกสารจำนวนมากให้นายกฯ คงมีเอกสารดังกล่าวติดเข้าไปด้วย และนายกฯก็ไม่ทราบว่าช่างภาพข่าวถ่ายรูป นายกฯ และมีเอกสารวางอยู่ด้วย

ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า “เป็นเรื่องของฝ่ายความมั่นคง เอกสารลับก็คือเอกสารลับ จะมาเผยแพร่ได้อย่างไร” แต่ไม่ตอบว่าโยงฝ่ายการเมืองหรือไม่

ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง เปิดเผยว่า เป็นเอกสารเกี่ยวกับเรื่องความมั่นคง บอกรายละเอียดไม่ได้ พร้อมยืนยันไม่เกี่ยวกับเรื่องทางการเมือง

หากย้อนไทม์ไลน์กลับไปช่วงต้นเดือน ส.ค.ที่เกิดเหตุระเบิดหลายจุดใน กทม. แม้ที่ผ่านมาจะมีการออกหมายจับ แต่สิ่งหนึ่งที่สังคมยังต้องการคำตอบคือใครเป็น ‘Mastermind’ อยู่เบื้องหลัง

ตามที่ ‘บิ๊กแดง’พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. เคยกล่าวไว้เมื่อ 6ส.ค. ว่า Mastermind คือผู้อยู่เบื้องหลัง ที่มีความคิดที่จะก่อเหตุในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการทำระเบิดหรือการทำข่าวปลอม ก็ถือเป็นการบ่อนทำลายประเทศ อีกแบบเหมือนกัน ซึ่ง พล.อ.อภิรัชต์ ก็ยอมรับว่ามีความซับซ้อนสูง ในการจะเข้าไปถึง ‘ตัวผู้บงการ’ ได้ เพราะการวางแผนมีการตัดตอนความเชื่อมโยงของบุคคล ทำให้การสืบค้นขยายผลทำได้ยากขึ้น

โดยฝ่ายการเมืองก็เริ่มออกมาเคลื่อนไหวในเรื่องนี้ เพราะสิ่งเหล่าก็สะท้อนแนวคิดขอบรัฐบาล โดย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย มองว่า นายกฯ อาจเข้าใจผิดว่ารัฐบาลกับความเป็นรัฐ ซึ่งรัฐคือชาติ แต่รัฐบาลคือคนจำนวนหนึ่งที่มาทำงานแทนประชาชน แต่เวลาที่มีคนพูดติติงนายกฯมักพูดว่านี่คือการทำลายชาติ ก็อยากให้นายกฯทำความเข้าใจใหม่

แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าเหตุใด พล.อ.ประยุทธ์ จึงนำเอกสารฉบับดังกล่าวไปที่สภา ในวาระการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ กรณีที่ ครม. ถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วน และกรณีรัฐบาลแถลงนโยบานต่อสภา แต่ไม่ได้ระบุที่มางบฯ ซึ่งเอกสารดังกล่าวมีส่วนเชื่อมโยงกับสิ่งที่อภิปรายหรือไม่

ประยุทธ์.jpg

อย่างไรก็ตามในตลอดสัปดาห์หากย้อนดูข่าวจะพบว่า พล.อ.ประยุทธ์ มีอารมณ์ที่หงุดหงิดตลอดสัปดาห์ หลังถูกโจมตีในหลายเรื่อง จนถึงขั้นเปรียบเปรยว่าแค่หายใจก็ผิดแล้ว อีกทั้งมีการกล่าวพาดพิงบุคคนที่อยู่ต่างประเทศหลายครั้ง ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นขั้วตรงข้ามกับรัฐบาล

“เรื่องแรงงานก็โจมตีกัน พาดหัวข่าวกันเข้าไป เห้อ ไม่มีใครทำได้หรอก ต่อให้ไปเรียกไอ้คนที่อยู่เมืองนอกกลับมาก็ทำไม่ได้ ใครก็ไม่รู้เหมือนกัน ทำแบบเดิมก็เจ๊งไปกว่าเดิม” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

“วันนี้ยิ้มได้ เพราะความสุขนั้น หาได้ทุกวัน แต่บางคนกลับชอบสร้างปัญหาให้กับเรา แต่นายกฯไม่ค่อยมีความทุกข์ มีแต่ความทุกข์ของประชาชน นี่คือคนไทยที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ แต่บางคนไม่สร้างชื่อเสียง แต่กลับสร้างชื่อเสีย อยู่ต่างประเทศ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวกับ ‘อเล็กซ์ซานดา อัลบอน อังศุสิงห์’ นักแข่งรถ Formula 1 ลูกครึ่งไทย-อังกฤษ

รวมทั้งถึงกับถามว่า ‘จะเอาผมแบบนี้ หรือ จะเอาผมแบบก่อน’ ที่ทำให้เกิดการตีความกันไปไกลถึงขั้น ‘ขู่รัฐประหาร’ หรือไม่ ? แต่ภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ ก็ออกมาระบุว่า “คือหงุดหงิดแบบก่อน ตอนนี้ก็คืออารมณ์ดี” ทำให้ทุกอย่างจบลงไป

พร้อมกับตอบโต้ ‘รัฐบาลเก่า’ ถึงการแก้ปัญหาต่างๆที่รัฐบาลตนได้ทำ โดยชี้ว่า “รัฐบาลก่อนไม่รู้เรื่องเหล่านี้ เพราะไม่เคยทำ ไม่เคยสนใจ สนใจแต่จะเล่นงานคนอื่น เป็นนิสัยอยู่แบบนี้ ไม่เคยสงบปากสงบคำ ในเรื่องที่ตัวเองไม่รู้”

ประยุทธ์.jpgอภิรัชต์

ทั้งหมดนี้จึงเป็นปรากฏการณ์ในห้วงสัปดาห์นี้ที่ พล.อ.ประยุทธ์ เผชิญ โดยเฉพาะเอกสาร ‘โครงข่ายขบวนการทำลายประเทศ’ ที่ยังไม่เคลียร์ว่ามีที่มาอย่างไรและในเล่มมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง

ย้อนกลับไป 2 เดือนก่อน พล.อ.อภิรัชต์ เคยเปิดเผยช่วงกลางเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ว่า ตนกำลังเขียนบทความเชิงวิทยานิพนธ์ เกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันที่เกิดขึ้นและสถานการณ์ที่เกิดขึ้นมาในอดีต รวมถึงความเชื่อมโยงต่างๆ ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับความมั่นคงและสถานการณ์ในปัจจุบันรวมถึงเรื่องโซเชียลมีเดียและสื่อมวลชนด้วย จากนั้นจะมีการเผยแพร่ต่อไป

โดยแบ่งเนื้อหาออกเป็น 3 ตอน ประเด็นหลัก คือ อิทธิพลของโซเชียลมิเดียที่มีผลต่อสังคม เศรษฐกิจ วัฒนธรรม การเมือง

ทั้งนี้เมื่อสื่อไปถามถึงความคืบหน้าเมื่อปลายเดือนส.ค.ที่ผ่านมา พล.อ.อภิรัชต์ ระบุว่า "เขียนเสร็จแล้ว เดี๋ยวเผยแพร่ เดี๋ยวจะมีคนเดือดร้อน" แต่เมื่อถามว่าเป็นฝ่ายการเมืองหรือไม่นั้น พล.อ.อภิรัชต์ ได้ปฏิเสธตอบ

ทั้งหมดตอกย้ำว่าฝ่ายความมั่นคงไทยมีการเก็บรวบรวม ‘หลักฐาน’ และ ‘ข้อมูล’ ต่างๆไว้เป็นระบบ ที่สำคัญสิ่งเหล่านี้อยู่ในมือ พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.อภิรัชต์ จึงต้องติดตามว่าสิ่งเหล่านี้จะถูกนำมาใช้ในอนาคตหรือไม่

โดยเฉพาะบทความเชิงวิทยานิพนธ์ของ พล.อ.อภิรัชต์ รวบรวมข้อมูลไว้เพื่ออะไร ได้ส่งให้หน่วยใดศึกษา และบุคคลใดอ่านบ้าง รวมทั้งหวังผลสิ่งใดในอนาคตหรือไม่ เพราะบทบาทของ พล.อ.อภิรัชต์ ยังคงถูกจับตาไปถึงหลังเกษียณฯ ก.ย. 2563 ว่าจะไปอยู่ในตำแหน่งใด รวมทั้งจะมาสู่สนามการเมืองหรือไม่

แต่เชื่อได้ว่าเอกสารเหล่านี้ คงมีคำตอบ Mastermind สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองแน่นอน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ปริศนา ลายพราง
164Article
0Video
39Blog