ไม่พบผลการค้นหา
หลายมลรัฐในสหรัฐฯ เริ่มใช้วิธีการตรวจหาผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในรูปแบบ 'Drive-Through จอด-รับ-ขับไปตรวจ' เพื่อเพิ่มการค้นหาผู้ติดเชื้อให้มากขึ้น

เมื่อวันศุกร์ 13 มี.ค. ที่ผ่านมา รัฐนิวยอร์กของสหรัฐฯ เปิดให้บริการตรวจหาเชื้อโควิด-19 แบบไดร์ฟทรู (Drive-Through) หรือ ขับรถไปรับสินค้าหรือบริการโดยไม่ต้องจอดรถลงมารับ หลังจากมียอดผู้ติดเชื้อในรัฐเพิ่มขึ้นมากที่สุดแห่งหนึ่งในสหรัฐฯ

แอนดรูว์ กัวโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กกล่าวว่า 'วิธีการตรวจหาเชื้อโควิด-19 จะเปิดให้บริการไปถึงสักระยะเท่าที่จำเป็นต้องทำ ซึ่งอาจจะกินระยะเวลา 6 - 9 เดือนก็เป็นได้'

การตรวจหาเชื้อแบบ Drive-Through นั้นคาดว่าจะสามารถตรวจหาเชื้อให้กับประชาชนได้ถึง 200 รายต่อวัน และอาจเพิ่มขึ้นถึง 500 รายต่อวันในอนาคต อย่างไรก็ตามการตรวจแบบ Drive-Through นี้ประชาชนจะต้องทำการนัดหมายล่วงหน้าก่อน ซึ่งจะให้สิทธิแก่ประชาชนกลุ่มผู้สุงอายุและต้องอาศัยอยู่ในเมืองนิว รอคเชลล์เป็นอันดับแรก

ทั้งนี้รัฐนิวยอร์กไม่ได้เป็นรัฐแรกที่ทำการตรวจหาผู้ติดเชื้อแบบ Drive-Through ก่อนหน้านี้ในรัฐอื่นๆ ก็มีการตั้งศูนย์ตรวจแบบนี้เช่นกัน ทั้งรัฐโคโลราโด รัฐวอชิงตัน รัฐแคลิฟอรืเนีย รัฐยูทาห์ รัฐมินนิโซตา รัฐเดลแวร์และรัฐอินเดียนา

กัวโมกล่าวว่า 'ศูนย์ตรวจหาเชื้อโควิดแบบ Drive-Through นี้ ไม่เพียงแต่สะดวกและรวดเร็วเท่านั้นแต่ยังปลอดภัยอีกด้วย เนื่องจากผู้ที่มีอาการเสี่ยงจะไม่ต้องเข้าไปในห้องฉุกเฉินหรือในโรงพยาบาลซึ่งเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อไปยังผู้อื่น'

000_1PF9XX.jpg

(การตรวจคัดกรองแบบDrive-Through ในเกาหลีใต้ที่มีจุดบริการมากกว่า 50 จุด สามารถตรวจหาผู้ติดเชื้อได้วันละหลายพันราย)

การตรวจหาเชื้อโควิด-19แบบ Drive-Through นี้เริ่มมีครั้งแรกในประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งใช้ตรวจหาเชื้อของผู้ที่เป็นกลุ่มที่เสี่ยงเป็นจำนวนมากในเกาหลีใต้ ทำให้เกาหลีใต้เป็นประเทศที่สามารถตรวจหาการติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งการควบคุมการระบาดโควิด-19 ในเกาหลีได้มุ่งเน้นการตรวจหาผู้ที่ติดเชื้อให้ได้มากที่สุดและเร็วที่สุดเพื่อควบคุมการระบาด

ปัจจุบันไม่เพียงแต่สหรัฐฯ ที่นำวิธีการตรวจโควิด-19 แบบ Drive-Through จากเกาหลีใต้ไปใช้ แต่ในอังกฤษและเยอรมันก็นำวิธีการนี้ไปตรวจหาผู้ติดเชื้อเช่นกัน

ที่มา BI / nbcnews

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :