หลังเกิดการยึดอำนาจในเมียนมาโดยคณะรัฐประหารภายใต้การนำของพลเอกอาวุโส มินอ่องหล่ายน์เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2564 ประชาชนหลายพันคนถูกจับกุมและคุมขัง ขณะที่ประชาชนมากกว่า 1,000 คนต้องถูกสังหารโดยฝีมือของกองทัพเมียนมา ล่าสุดสำนักข่าว BBC รายงานว่า มินอ่องหล่ายน์ จะทำการปล่อยตัวประชาชนที่ถูกคุมขังหลังการก่อรัฐประหารจำนวนทั้งสิ้น 5,636 คนเพื่อเหตุผลด้านมนุษยธรรม

มินอ่องหล่ายน์กล่าวผ่านสถานีโทรทัศน์ ระบุว่าเขาต้องการที่จะปล่อยตัวผู้ที่ "เข้าร่วมการประท้วงที่มีความรุนแรงเพราะเหตุผลอันหลากหลาย" พร้อมชี้ว่าการคืนอิสรภาพให้ประชาชนจะมีขึ้นเพื่อเทศกาลแห่งแสง "Thadingyut Festival of Lights in Myanmar" หรือเทศกาลวันออกพรรษา อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าว BBC มองว่า นี่คือการยอมอ่อนข้อครั้งสำคัญของมินอ่องหล่ายน์ หลังต้อง 'ขายหน้า' อย่างหนักเมื่ออาเซียนประกาศตัดผู้นำคณะรัฐประหารเมียนมาไม่ให้เข้าร่วมการประชุมปลายเดือนนี้

'บุคคลที่เหมาะสม' จะได้รับการอภัยโทษ

"บุคคลที่เหมาะสมจะได้รับการอภัยโทษเพื่อเทศกาลแห่งแสงที่กำลังจะมาถึง" ผู้นำคณะรัฐประหารซึ่งตั้งตนขึ้นเป็นนายกฯ ของเมียนมาระบุพร้อมย้ำว่าผู้นำทางทหารของเมียนมาต่างยึดมั่นใน 'สันติ' และ 'ประชาธิปไตย' และยืนยันว่ารัฐบาลทหารของเขามีวิธี '5 ขั้นตอน' ในการคืนประชาธิปไตยให้กับประชาชน 

ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นหลังจากที่บรรดารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของชาติสมาชิกอาเซียนบรรลุข้อตกลงเมื่อวันที่ 15 ต.ค.ในการประกาศตัดหัวหน้าคณะรัฐประหารเมียนมา 'มินอ่องหล่ายน์' ออกจากการร่วมประชุมสุดยอดผู้นำที่จะมีขึ้นในวันที่ 26 ต.ค.นี้ ซึ่งจะมี ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ และอีกหลายชาติเข้าร่วมประชุมด้วย 

เนื่องจากเห็นว่าหัวหน้าคณะรัฐประหารเมียนมายังไม่สามารถแสดงให้ชาติสมาชิกเห็นได้ว่ามีความพยายามในการยุติความรุนแรงในเมียนมาได้ตามที่เคยสัญญาไว้เมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ส่งผลให้ชาติสมาชิกอาเซียนจะส่งคำเชิญไปยังผู้แทนของเมียนมาที่ไม่ใช่ฝ่ายการเมืองเข้าร่วมการประชุมที่กำลังจะเกิดขึ้นแทน

ด้านสมาคมช่วยเหลือนักโทษทางการเมืองของเมียนมา หรือ AAPP ชี้ว่า ปัจจุบันมีประชาชนเสียชีวิตจากการถูกปราบปรามโดยกองทัพเมียนมาไปแล้วอย่างน้อย 1,178 ราย และประชาชนที่ออกมาประท้วงต่อต้านคณะรัฐประหารที่ตั้งตนขึ้นเป็นผู้บริหารประเทศถูกจับกุมคุมขังไปแล้วอย่างน้อย 7,355 คนนับตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.เป็นต้นมา และเคยมีการปล่อยตัวผู้ต่อต้านรัฐประหารมาแล้วในเดือน ก.ค.จำนวน 2,000 คน