บริษัทวอลท์ดิสนีย์ประกาศว่าจะปลดพนักงาน 28,000 คน โดยส่วนเป็นพนักงานของสวนสนุกดิสนีย์ในสหรัฐฯ โดยดิสนีย์ให้เหตุผลว่า เป็นผลจากที่โควิด-19 ระบาด ทำให้ดิสนีย์มีมาตรการจำกัดจำนวนผู้เข้าสวนสนุกและเกิดความไม่แน่นอนว่าสถานการณ์โรคระบาดจะคลี่คลายเมื่อไหร่
สวนสนุกของดิสนีย์ได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากโควิด-19 โดยก่อนหน้านี้ ดิสนีย์ต้องสั่งปิดสวนสนุกทั้งหมดในช่วงที่ไวรัสโคโรนาระบาดอย่างหนัก และเพิ่งจะกลับมาเปิดให้บริการเมื่อไม่นานมานี้ โดยต้องจำกัดจำนวนผู้เข้า เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการเว้นระยะทางสังคม
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เหลือเพียงดิสนีย์แลนด์ในมลรัฐแคลิฟอร์เนียเท่านั้นที่ยังปิดอยู่ โดยดิสนีย์ระบุว่า ปัญหาของดิสนีย์ย่ำแย่ลง เพราะมลรัฐแคลิฟอร์เนียไม่ต้องการยกเลิกมาตรการเข้มงวดในการป้องกันโรคระบาด และอนุญาตให้ดินนีย์แลนด์เปิดให้บริการอีกครั้ง
จอช ดามาโร ประธานฝ่ายสวนสนุกเขียนในแถลงการณ์ว่า “เราได้ตัดสินใจอย่างยากลำบากมากที่จะเริ่มกระบวนการลดกำลังคนในฝ่ายสวนสนุก ประสบการณ์และสินค้าในทุกระดับ” โดยพวกเขาตัดสินใจปลดพนักงานในสหรัฐฯ ที่ทำงานพาร์ตไทม์ประมาณ 67% แต่พนักงานในเซี่ยงไฮ้ ฮ่องกง โตเกียว และปารีสไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด
ดิสนีย์สูญเสียรายได้ส่วนสวนสนุก ประสบการณ์และสินค้าในช่วง 28 มี.ค.-27มิ.ย. ไปประมาณ 4,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (เกือบ 150,000 ล้านบาท) ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปี 2562 ถึง 85%
