ไม่พบผลการค้นหา
ธนาคารโลกชี้โควิดรอบใหม่ ฉุดจีดีพีเมียนมาดิ่ง 18% กว่าหนึ่งล้านตำแหน่งงานอาจหายไป วิกฤตซ้อนทับทั้งการเมืองและโควิด

รายงานล่าสุดของธนาคารโลกคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจของเมียนมาจะหดตัวประมาณ 18% ในปีนี้เพราะผลพวงของปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองอันเนื่องมาจากการทำรัฐประหารยึดอำนาจของกองทัพเมียนมาเมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา และจำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 รายใหม่ในระลอกที่สามที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

"การสูญเสียงานและรายได้ รวมไปถึงความเสี่ยงด้านความปลอดภัยทางสุขภาพและอาหารล้วนทับถมความยากลำบากที่ประชาชนเมียนมากลุ่มยากจนและเปราะบางที่สุดต้องเผชิญ" มาเรียม เชอร์แมน ผู้อำนวยการธนาคารโลก ประจำประเทศเมียนมา, กัมพูชา และลาว กล่าว

รายงานจากธนาคารโลกชี้ว่า กว่าหนึ่งล้านตำแหน่งงานกำลังจะหายไปจากวิกฤตซ้อนทับที่เกิดขึ้นตอนนี้ ขณะที่สัดส่วนความยากจนของชาวเมียนมาอาจเพิ่มขึ้นถึงสองเท่า ในช่วงต้นปี 2565 เมื่อเทียบกับตัวเลขในปี 2563

ในปีที่ผ่านมานั้น จีดีพีของเมียนมาเติบโตอยู่ที่ 1.7% ขณะที่หากย้อนหลังไปสามปีก่อนหน้า พบว่ามีสัดส่วนการเติบโตที่ค่อนข้างสูง จีดีพีในปี 2562 อยู่ที่ 6.8% ขณะที่จีดีพีในปี 2561 และ 2560 อยู่ที่ 6.4% และ 5.8% ตามลำดับ

สำหรับสถานการณ์โควิด-19 ในปัจจุบันของเมียนมานั้น ข้อมูลจาก worldometers ประจำวันที่ 27 ก.ค.เวลา 12.00 น.(ตามเวลาประเทศไทย) พบว่ามีตัวเลขผู้ติดเชื้อรวมราว 274,000 คน ในจำนวนนี้มีผู้เสียชีวิตกว่า 7,500 ราย

การระบาดของเชื้อไวรัสกลับมาเป็นปัญหากับเมียนมาอีกครั้งในช่วงเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา หลังจากที่ก่อนหน้านี้ข้อมูลระบุเหมือนสามารถควบคุมได้แล้ว เมียนมาพบผู้ติดเชื้อรายวันทะลุ 1,000 คน มาตั้งแต่ปลายเดือน มิ.ย.โดยตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันพุ่งขึ้นไปแตะหลัก 7,000 คน ในช่วงกลางเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา