เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์รายงานว่า เกิดปรากฎการณ์ชาวฮ่องกงหลายร้อยรายพากันต่อแถวอุดหนุนร้านค้าปลีกสินค้าจากประเทศไทยที่ชื่อ ' AbouThai' กันอย่างเนื่องแน่น 3 วันติดต่อกัน เพื่อแสดงการสนับสนุน ไมก์ หล่ำ (Mike Lam) เจ้าของกิจการวัย 33 ปี หลังจากที่ธุรกิจของเขา ซึ่งเป็นฝ่ายที่สนับสนุนและเคยร่วมเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกง ถูกเจ้าหน้าที่ราว 100 คน เข้าตรวจสินค้าในโกดังกระจายสินค้าของร้านเมื่อ 8 เม.ย. ที่ผ่านมา ยึดสินค้าจำนวน 8,805 รายการ อาทิ ครีมอาบน้ำ น้ำยาทำความสะอาด รวมมูลค่า 400,000 ดอลลาร์ฮ่องกง หรือราว 1.6 ล้านบาท

ไมก์ หล่ำนอกจากประกอบธุรกิจร้านค้าปลีกสินค้าที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทยแล้ว เขายังเป็นหนึ่งในจำเลย 47 คน ที่ถูกดำเนินคดีตามกฎหมายความมั่นคงฮ่องกงจากการที่เคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลจีน โดยขณะนี้หล่ำกำลังอยู่ระหว่างประกันตัวเพื่อสู้คดีในชั้นศาลจากคดีความมั่นคง แต่ธุรกิจของตนกลับต้องถูกเจ้าหน้าที่ทางการเข้าตรวจยึดดังกล่าว โดยตั้งข้อหาว่าสินค้าไทยที่จำหน่ายในร้าน ติดฉลากไม่ถูกต้อง เนื่องด้วยเป็นสินค้าจากไทย หลายรายการจึงไม่มีคำอธิบายบนฉลากที่เป็นภาษาจีนที่เกี่ยวข้องกับวิธีการใช้ การบริโภค การจัดเก็บ หรือการทิ้งบรรจุภัณฑ์นั้นอย่างถูกต้อง หลายฝ่ายจึงเชื่อว่าเขาถูกกลั่นแกล้งจากหน่วยงานท้องถิ่น เนื่องจากร้านค้าปลีกที่จำหน่ายสินค้าในลักษณะเดียวกันนี้แห่งอื่นๆ กลับไม่ถูกตรวจยึดเหมือนเช่นร้านของนายหล่ำ โดยทางร้านออกประกาศชี้แจงและปฏิเสธข้อกล่าวหาของหน่วยงานท้องถิ่นที่ว่า "สินค้าเป็นอันตรายเพราะไม่เป็นไปตามมาตรฐาน"

เฉพาะช่วงวันอาทิตย์ที่ผ่านมา มีลูกค้าชาวฮ่องกงจำนวนมากนับร้อยคน ต่อแถวยาวเหยียดเพื่อซื้อสินค้าของร้าน น AbouThai สาขาควีนส์เวย์พลาซ่า ของย่านย่านแอดมิรัลตี 'จง' หนึ่งในลูกค้าที่ต่อแถวซื้อของเผยกับเซาท์มอร์นิ่งโพสต์โดยเชื่อว่า ร้านอาจมีช่องโหว่ในแง่การติดฉลากบนผลิตภัณฑ์ แต่มันเป็นสองมาตรฐาน เมื่อธุรกิจอื่นๆ ที่คล้ายกันแต่กลับไม่ถูกตรวจยึด

"ศุลกากรต้องมีความยุติธรรม ไม่ใช่เลือกเล่นงานเฉพาะร้านใดร้านหนึ่ง ธุรกิจไหนทำผิดก็สมควรลงโทษตามกฎหมาย ถึงจะพิสูจน์ยาก แต่กรณีนี้ เห็นๆกันอยู่ว่าการตรวจยึดมีประเด็นแอบแฝงซ้อนเร้น"

จากการบุกตรวจยึดสินค้าส่งผลให้ผู้จัดการร้านและพนักงานของร้านบางส่วนถูกจับกุม แต่ได้รับการประกันตัวในภายหลัง 

เช่นเดียวกับ สกาย โฮ ลูกค้าวัย 30 ซึ่งต่อแถวซื้อของร้าน AbouThai สาขาศูนย์การค้า V Walk ย่านซ๊ามโซ๋ยโป๋ว เผยว่า "แม้ต้องต่อคิวรอจ่ายเงินนานเกือบชั่วโมง แต่ผมต้องการสนับสนุนร้านนี้ หลังจากเกิดเรื่องผมให้เงินช่วยพวกเขาโดยตรงไม่ได้ จึงต้องช่วยอุดหนุนสินค้าที่ร้านแทน เราสนับสนุนธุรกิจที่อยู่ข้างประชาธิปไตย"

ไม่ต่างกับ 'วิกกี้' ลูกค้าวัย 30 ปีอีกรายที่เผยว่าต้องการสนับสนุนร้านค้า "เครือข่ายเศรษฐกิจสีเหลือง" (yellow economic circle) ซึ่งเป็นคำเรียกผู้ประกอบการเปิดหน้าแสดงจุดยืนต่อต้านรัฐบาลฮ่องกง และรวมเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยเมื่อปี 2019 

"เราเป็นเพียงพลเมืองทั่วไปที่ต้องการทำในสิ่งที่ช่วยเหลือได้ แต่อนาคตฉันกังวลว่า ทางการจะบีบผู้บริโภคด้วยกฎหมายที่เกี่ยวกับความมั่นคง แต่ถึงเวลานั้นฉันจะยังคงสนับสนุนสินค้านี้ต่อไป" 

ที่มา Thestandard.com.hk , SCMP