อัยการจังหวัดสมุย ยืนยันจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ในคดีฆาตกรรมนักท่องเที่ยวเกาะเต่า หลังผู้ต้องหากลับคำรับสารภาพ ด้านนายกรัฐมนตรี ยืนยันอังกฤษและเมียนมาร์ พอใจการทำคดีของตำรวจไทย
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. กล่าวถึงคดีฆาตกรรม นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ที่เกาะเต่า ที่ผู้ต้องหาชาวเมียนมาร์กลับคำให้การว่า เป็นเรื่องที่หน่วยงานต่าง ๆ ต้องหารือร่วมกัน และเมื่อคืนที่ผ่านมา เอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรและเมียนมาร์ ได้หารือร่วมกันแล้ว ทั้ง 2 ประเทศพอใจในภาพรวมการทำคดี
ส่วนพลตรี สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ย้ำว่า กระบวนการยุติธรรมของไทย เป็นไปตามหลักสากล อังกฤษไม่สามารถเข้ามาก้าวก่ายได้ และทำได้เพียงร่วมสังเกตการณ์ ส่วนกรณีที่ผู้ต้องหากลับคำให้การถือเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ เพราะมีหลายคดีที่เคยเกิดขึ้นแล้ว
ด้าน นายไพบูลย์ อาชวานันทกุล อัยการผู้เชี่ยวชาญ สำนักงานอัยการภาค 8 รักษาการอัยการจังหวัดเกาะสมุย เปิดเผยว่า เบื้องต้นทางอัยการ ต้องตรวจสอบว่า ข้อมูลที่ผู้ต้องหาระบุว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรมนั้น มีความสอดคล้องกับสำนวนการสอบสวนของทางเจ้าหน้าที่มากน้อยเพียงใด โดยยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย โดยนายไพบูลย์ ย้ำว่า อัยการไม่ได้ให้น้ำหนักเรื่องผู้ต้องหาจะให้การปฏิเสธหรือรับสารภาพ แต่จะให้น้ำหนักไปที่ผลด้านนิติวิทยาศาสตร์ คือ ผลการตรวจ DNA ซึ่งเป็นหลักฐานที่ยืนยันได้ว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน เป็นคนลงมือก่อเหตุหรือไม่
นอกจากนี้ ยังได้สั่งให้พนักงานสอบสวนไปสอบสวนข้อมูลเพิ่มเติม ในส่วนที่ทางอัยการเห็นว่ายังไม่ครบถ้วน เป็นรอบที่ 2 ก่อนอัยการจะหารือร่วมกัน เพื่อสรุปสำนวนส่งฟ้องศาลหรือไม่ต่อไป
ส่วนพลตำรวจโทประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการประสานอย่างเป็นทางการ จากตำรวจอังกฤษ เรื่องการเข้าร่วมสอบสวนคดีฆาตกรรมนักท่องเที่ยวที่เกาะเต่า และยืนยันว่า ในกระบวนการสอบสวนของตำรวจไทยเป็นไปตามหลักสากล ไม่มีการทำร้ายร่างกายผู้ต้องหา ส่วนกรณีที่ผู้ต้องหากลับคำสารภาพและใช้สิทธิชี้แจงกับพนักงานอัยการ ก็เห็นว่า เป็นสิทธิของผู้ต้องหาที่สามารถทำได้ ก่อนอัยการสรุปสำนวนส่งฟ้องต่อศาล