หลังจากที่ศาลมีคำสั่งออกมาตรการคุ้มครองชั่วคราวให้ทั้งไทย-กัมพูชา ถอนทหารออกจากปราสาทพระวิหารในทันที และกำหนดพื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตปลอดทหาร และห้ามทั้งฝ่ายทำกิจกรรมทางทหารใดๆที่จะนำไปสู่ความขัดแย้งเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งห้ามไม่ให้ไทยขัดขวางการเดินทางหรือส่งเสบียง สิ่งของ ของพลเรือนกัมพูชา หรือบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ทหาร ที่จะดินทางขึ้นไปยังปราสาทพระวิหาร และให้ทั้งสองประเทศร่วมมือกันภายใต้กรอบของอาเซียน ในทางปฎิบิติทั้งสองประเทศสามารถทำได้จริงหรือไม่
วันนี้ (19 กรกฎาคม 2554) รายการ Hot Topic ร่วมพูดคุยกับอ.สรจักร เกษมสุวรรณ ผอ.สถาบันกฎหมายและนโยบายระดับโลก คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และอ.พนัส ทัศนียานนท์ อดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์
อ.สรจักร กล่าวว่า ถ้าใช้ตามคำตัดสินของศาลที่จะให้ทั้งสองประเทศถอนทหารออก ทั้งสองประเทศต้องทำ แต่การที่จะถอนทหารออกนั้น จะต้องมีเงื่อนไขต่างๆ และทั้งไทย-กัมพูชาจะต้องพูดคุย ภายในระยะเวลาอันใกล้ โดยไม่จำเป็นต้องรอรัฐบาลชุดใหม่ ส่วนในการกำหนดพื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตปลอดทหาร อาจจะต้องถกเถียงกันต่อไป เนื่องจากบางพื้นที่ทหารของกัมพูชาจะพักอาศัยอยู่กับครอบครัว และในบางพื้นที่ยังไม่ได้อยู่ในบริเวณที่ขัดแย้งกันทั้งหมด
ทางด้าน อ.พนัส กล่าวว่า สาเหตุที่ศาลโลกตีความเป็นบริเวณ 4.6 นั้น เชื่อว่า อาจจะเป็นการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดเหตุปะทะกันทั้งสองฝ่าย และเป็นการคุ้มครองสิทธิ รวมทั้งเรื่องของปราสาทพระวิหาร ซึ่งเป็นประเด็นที่พิพากกัน โดยจะต้องกำหนดให้เป็นเขตปลอดทหารชั่วคราว
ส่วนเรื่องของการปฎิบัติได้หรือไม่นั้น และอาจจะนำไปถึงการสู่รบหรือไม่ อ.พนัส เชื่อว่า ไม่น่าจะเกิดขึ้น เพราะทั้งสองฝ่ายจะต้องพูดคุยกันและปรึกษากัน ขณะที่อ.สรจักร เชื่อว่า อาจจะมีการปะทะเกิดขึ้น แต่โชคดีที่ศาลได้ให้ทั้งสองประเทศร่วมมือกันภายใต้กรอบของอาเซียน ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรทำตั้งแต่แรกแล้ว
Produced by VoiceTV