เทสโก้ เปิดเผยแผนกู้วิกฤตโดยขายทั้งสินทรัพย์ ปิดสำนักงานใหญ่ และ 43 สาขาที่ไม่ทำกำไร ซึ่งเป็นสาขาในอังกฤษไม่มีสาขาในประเทศไทย
แผนฟื้นบริษัทที่นายเดฟ ลูอีส ซีอีโอของเทสโก้ ประกาศออกมาส่วนใหญ่เน้นไปที่การรัดเข็มขัด โดยลดรายจ่ายการลงทุนในปีนี้(58) เหลือ 1 พันล้านปอนด์ หรือประมาณ 4 หมื่น 9 พันล้านบาท และลดรายจ่ายประจำปีลงอีก 250 ล้านปอนด์ หรือราว 1 หมื่น 2 พัน 4 ร้อยล้านบาท ทำให้ราคาหุ้นเทสโก้ ดีดตัวขึ้นถึง 10% หลังการประกาศแผนนี้
มาตรการรัดเข็มขัด นอกจากปิดสำนักงานใหญ่ และสาขาในอังกฤษที่ไม่ทำกำไร 43 แห่ง , ยกเลิกการจ่ายปันผล , ยกเลิกเงินบำนาญพนักงาน , ขายธุรกิจบรอดแบนด์และธุรกิจสื่อบันเทิงออนไลน์ Blinkbox ให้แก่ บริษัท TalkTalk และขายธุรกิจวิเคราะห์ข้อมูล "Dunnhumby" เทสโก้ ยังยุติแผนการเปิดสาขาขนาดใหญ่ อีก 49 สาขา ออกไปก่อน
ส่วนสำนักงานใหญ่ใน Cheshunt ที่ปิดตัว จะย้ายไปอยู่ที่ Welwyn Garden City ซึ่งอยู่ใน Hertfordshire แทน ขณะที่ 43 สาขาที่ถูกปิดจะเป็นโมเดล Tesco Express ด้าน Dunnhumby จะให้โกลด์แมน แซคส์ พิจารณาตัวเลือกต่างๆ ก่อนการขาย
นอกจากนี้ จะลดค่าใช้จ่ายส่วนกลางลง 30% และลดทีมผู้บริหารลงจาก 17 คน เหลือ 13 คน สำหรับธุรกิจบรอดแบนด์และสื่อบันเทิงออนไลน์ Blinkbox แม้ยังไม่มีการเปิดเผยวงเงิน แต่มีการคาดการณ์ว่าดีลนี้ จะใช้เงินสดอย่างน้อย 5 ล้านปอนด์ หรือเกือบ 250 ล้านบาท
ทั้งนี้ ยอดขายของเทสโก้ ช่วง 6 สัปดาห์ก่อนถึงวันที่ 3 มกราคม 2558 ลดลง 0.3% และลดลง 2.9% ในช่วง 19 สัปดาห์ แต่น้อยกว่าไตรมาส 3 ที่ลดลงไปถึง 5.4% และดีกว่าคู่แข่งอย่าง Sainsbury ซุปเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ในอังกฤษ อย่างไรก็ตาม เทสโก้ ยังต้องเผชิญการแข่งขันกับร้านค้าปลีกขายสินค้าลดราคาจากเยอรมัน อย่าง Lid และ Aldi ที่ได้รับความนิยมมากในขณะนี้