แสนสิริ ตั้งเป้ารายได้แตะ 35,000 ล้านบาท หลังเปิดตัว 19 โครงการใหม่ มูลค่า 32,000 ล้านบาท พร้อมเปิดตัวคอนโดมิเนียมโครงการแรกภายใต้แผนร่วมทุนกับ BTS มั่นใจใน 3 ปีข้างหน้า จะมีกำไร 15% จากแผนสร้างความยั่งยืนในระยะยาว
นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด(มหาชน)(SIRI) เชื่อว่า การดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ จะมีทิศทางที่ดีจากหลายปัจจัย โดยเฉพาะเศรษฐกิจไทยที่จะขยายตัวได้ 3.5- 4.5% จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ทั้งการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณและการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ ช่วยกระตุ้นการผลิตของภาคเอกชนฟื้นตัว ประกอบกับ ราคาน้ำมันลดลงต่อเนื่อง ทำให้ประชาชนมีอำนาจซื้อสินค้าและบริการสูงขึ้น และผู้ประกอบการแบกรับต้นทุนลดลง
สำหรับแสนสิริ ในปีนี้มีแผนขยายการพัฒนาโครงการรองรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด รวมถึงลูกค้าต่างชาติ ประมาณ 17-19 โครงการ มูลค่ารวม 3 หมื่น 2 พันล้��นบาท แบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 9-10 โครงการ , บ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ 7 -9 โครงการ ตั้งเป้ายอดขายรวมทั้งปีที่ 3 หมื่น - 3 หมื่น 2 พันล้านบาท และคาดหมายรายได้ไว้ที่ 3 หมื่น 5 พันล้านบาท
ทั้งนี้ การเปิดตัวคอนโดมิเนียมในครึ่งปีแรก จะมีโครงการภายใต้ความร่วมมือกับบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS มูลค่าโครงการ 5 พันล้านบาทด้วย หลังตั้ง บริษัท บีทีเอส แสนสิริ โฮลดิ้ง วัน จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างแสนสิริ กับ BTS ในสัดส่วน 50 : 50
และจะขยายการพัฒนาสู่ทำเลภาคเหนือตอนล่าง โดยเตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ในจังหวัดพิษณุโลก พร้อมเดินหน้าตามแผนธุรกิจ Engineer for Growth หรือ EFG เพื่อสร้างความยั่งยืนให้แก่ธุรกิจและองค์กรในระยะยาวอย่างต่อเนื่อง หลังแผนบางส่วนที่ดำเนินการไปแล้วเริ่มเห็นผลสำเร็จอย่างรวดเร็วและชัดเจนจากผลกำไรในปีที่แล้วที่สูงใกล้เคียงเป้าหมายที่ 12% ตั้งเป้าใน 3 ปีข้างหน้า จะสร้างอัตรากำไรสุทธิได้ประมาณ 15%
นอกจากนี้ จะรุก"ดิจิตอล มาร์เก็ตติ้ง" เน้นใช้ Social Media เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายมากขึ้น และรักษาผู้นำบริการหลังการขายผ่านบริษัทลูก คือ พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ที่มีผลงานน่าพอใจในปีที่ผ่านมา