ฝ่ายประชาธิปไตยของฮ่องกง 'แพ้' การเลือกตั้งซ่อมทั้งหมด ทำให้หลายคนกังวลเกี่ยวกับอนาคตของฮ่องกงในมือจีนแผ่นดินใหญ่
ผู้สมัครส.ส.ฮ่องกงฝ่ายสนับสนุนประชาธิปไตยไม่สามารถคว้าเก้าอี้ในสภา นิติบัญญัติทั้ง 4 ที่นั่งกลับคืนมาได้ ในการเลือกตั้งซ่อมเมื่อวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา ทำให้ฝ่ายสนับสนุนจีนแผ่นดินได้ที่นั่งเพิ่ม 2 ที่นั่ง ซึ่งการพ่ายแพ้ครั้งนี้ทำให้ฝ่ายเรียกร้องประชาธิปไตยกังวลว่า ฮ่องกงจะถูกจีนแผ่นดินใหญ่ควบคุมได้อย่างเบ็ดเสร็จ
ฮ่องกงจัดการเลือกตั้งซ่อม เพื่อหาสมาชิกสภานิติบัญญัติจำนวน 4 ที่นั่ง หลังจากส.ส.ฝ่ายประชาธิปไตยที่เพิ่งได้รับเลือกตั้งเมื่อปี 2016 ที่ผ่านมา 4 คนถูกตัดสินว่าขาดคุณสมบัติ เนื่องจากพวกเขาประท้วงไม่ยอมกล่าวสาบานตนเข้ารับตำแหน่งโดยแสดงความจงรัก ภักดีต่อจีนแผ่นดินใหญ่
ดังนั้น ฝ่ายประชาธิปไตยจึงเดิมพันว่าการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้จะเป็นการลงประชามติว่าชาวฮ่องกงเห็นด้วยกับการ ตัดสิทธิ์ส.ส.ที่ได้รับคะแนนเสียงจากประชาชนหรือไม่ โดยเฉพาะกรณีที่ 'แอ็กเนส เจา' ถูกสั่งห้ามไม่ให้ลงสมัครเลือกตั้งซ่อมอีกครั้ง แต่การเล่นบทบาทเหยื่อที่ถูกรัฐกลั่นแกล้งกลับไม่สามารถจูงใจให้คนไปใช้สิทธิเลือกตั้ง
ผลการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ได้กลายเป็นความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ของฝ่ายประชาธิปไตยในฮ่องกง เพราะพวกเขาไม่สามารถทำให้คนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งกันได้มากพอ โดยการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้มีจำนวนผู้มาใช้สิทธิประมาณร้อยละ 40 จากผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด 2.1 ล้านคน จากที่มีคนไปใช้สิทธิถึงร้อยละ 58.3 ในการเลือกตั้งปี 2016
ซูซาน เปปเปอร์ นักเขียนและนักวิชาการฮ่องกงแสดงความเห็นว่า แม้จะไม่เห็นสถิติของผู้ไปใช้ สิทธิเลือกตั้ง แต่เธอสันนิษฐานว่า คนรุ่นใหม่ที่สนับสนุนประชาธิปไตยไม่ไปลงคะแนนเพราะพวก เขารู้สึกว่าความฝันที่จะสร้างสังคมประชาธิปไตยภายใต้การปกครองของจีนได้สลายไปแล้ว และคนที่มีอุดมการณ์ประชาธิปไตยก็จะถูกตัดสิทธิ์ไปอยู่ดี พวกเขาจึงคิดว่าการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้จะไม่สร้างความแตกต่างใด