รายการ Talking Thailand ประจำวันที่ 25 เมษายน 2563
นักวิเคราะห์ Talking Thailand จี้รัฐบาลต้องบริหารแบบรัฐสมัยใหม่ ไม่ใช่เป็นรัฐไดโนเสาร์ คำนึงผลกระทบรอบด้าน โดยเฉพาะสกัดคนฆ่าตัวตาย ที่จะมีผลต่อระบบเศษฐกิจในอนาคต ด้วยการผ่อนคลาย หรือ ค่อย ๆ เปิดเมืองให้คนจนได้ออกมาหาเลี้ยงชีพ ดีกว่า “ชู” ยอดคนติดเชื้อ เพื่อเป็นข้ออ้าง “ปิดเมือง” ชี้! คนไทยไม่ได้แฮปปี้ที่อยู่บ้านนานๆ
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. แถลงสถานการณ์ผู้ป่วยโควิด รายใหม่ 53 ราย โดยในจำนวนนี้ 42 คน เป็นแรงงานอยู่ในศูนย์กักขัง ตรวจคนเข้าเมือง อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย เป็นชายไทยอายุ 48 ปี มีประวัติสัมผัสผู้ป่วย คือน้องชายที่ทำงานสถานบันเทิงย่านทองหล่อ
จำนวนผู้ป่วยจำแนกตามปัจจัยเสี่ยงรายสัปดาห์ วันที่ 19-25 เมษายน ไปสถานที่แออัด ไปชุมชน ลดลงเรื่อยๆ แต่จะเพิ่มตรงศูนย์กักขังตรวจคนเข้าเมืองและการค้นหาเชิงรุกในชุมชนพบ 7 คน จากการติดเชื้อของแรงงานต่างด้าว42คน ทำให้วันนี้ประเทศไทยมีการประกาศเขตโรคติดต่ออันตรายเพิ่มขึ้น คือ มาเลเซีย อินโดนีเซีย เมียนมาร์ สปป.ลาว กัมพูชา จากเดิมที่มีเกาหลีใต้ จีน อิตาลี อิหร่าน
ทั้งนี้ สำหรับผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ 42 ราย จากศูนย์กักขังตรวจคนเข้าเมือง อ.สะเดา จ.สงขลา ประกอบด้วยพม่า 34 คน เวียดนาม 3 คน มาเลเซีย 2 คนเยเมน 1 คนกัมพูชา 1 คนและอินเดีย 1 คน โดยคนเหล่านี้เข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย แม้จะมีแรงงานเข้ามาผิดกฎหมายแต่ตามหลักมนุษยธรรมจะต้องดูแลทุกคนให้พ้นจากโรค ทั้งนี้ขอให้ชาวสงขลามั่นใจว่าจะไม่มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นแน่นอน แต่จากเหตุการณ์แรงงานในสิงคโปร์ที่ติดเชื้อกันเยอะ หลังจากนี้ จะต้องปรับวิธีใหม่ในการค้นหาผู้ป่วย ต้องมุ่งไปที่กลุ่มใหม่ คือ กลุ่มแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาอยู่ในประเทศมากขึ้น
นพ.ทวีศิลป์ ยังตอบคำถาม กรณีองค์การอนามัยโลกระบุว่า การสูบบุหรี่เพิ่มความเสี่ยง ว่ามีความเสี่ยงแน่นอน แต่จะสอบถามนักวิชาการด้านสถิติ เป็นชุดพฤติกรรมคนที่สูบบุหรี่ต้องสังสรรค์ ซึ่งการสังสรรค์และการใช้บุหรี่มวนเดียวกัน ก็มีการปนเปื้อนเชื้อจากน้ำลาย ส่วนการใช้บุหรี่ไฟฟ้าจะเป็นละอองฝอยก็ไปยังผู้อื่น การสูบบุหรี่ทำให้ปอดไม่ดีเพราะมีสารนิโคติน เชื้อโรคต่างๆ เข้าไปจับได้ง่าย บางคนเป็นโรคถุงลมโป่งพองอยู่แล้วก็มีความเสี่ยง
ส่วนคำถามที่ว่า รัฐบาลใช้เกณฑ์อะไรในการปลดล็อคหรือคลายในธุรกิจต่างๆ นั้น ต้องดูจากตัวเลข และข้อมูลสถิติตัวเลข จากกระทรวงสาธารณสุขที่มายังศูนย์ ศบค.ทุกวัน แน่นอน กิจการประเภท สถานบันเทิง-สนามมวย คงยังไม่สามารถเปิดกิจการได้ เพราะมีความเสี่ยงที่คนจะไปรวมตัวอยู่ใกล้กันมากๆ แต่เราก็เปิดให้ผู้ประกอบกิจการ เสนอมาตรการป้องกันโควิด-19 มาได้ โดยท่านเองก็ต้องสามารถปฏิบัติตามมาตรการ ที่ท่านเสนอมาได้ด้วย นั่นถึงจะพิจารณาให้เปิดกิจการได้
เมื่อถามว่า ศบค. กำชับแต่ละจังหวัดที่จะมีมาตรการคลายล็อกอย่างไร ยืนยันว่า เป็นเรื่องที่จะต้องมีภาพใหญ่และภาพย่อย เช่น พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และรายจังหวัดจะต้องไปกำหนด แต่ไม่ย่อหย่อนไปกว่ามาตรการใหญ่ แต่ละจังหวัดนำไปปรับใช้ตามสถานการณ์จากตัวเลขที่รายงานไป ไม่ได้บังคับกำชับหรือดูในรายละเอียด แต่ทุกจังหวัด ประชาชน หน่วยงานความมั่นคงเข้มข้นในการดูแล