แคนาดาอนุญาตให้ประชาชนครอบครองและใช้กัญชาเพื่อการสันทนาการได้แล้ว เป็นประเทศที่ 2 ของโลก ตามหลังอุรุกวัย

กฎหมายอนุญาตการครอบครองและใช้กัญชาเพื่อสันทนาการอย่างถูกกฎหมายมีผลบังคับใช้แล้วในแคนาดา เมื่อวานนี้ (17 ต.ค.61) เป็นวันแรก โดยมีการส่งข้อมูลเกี่ยวกับกฎหมายใหม่และแคมเปญสร้างความตระหนักเกี่ยวกับการใช้กัญชาไปยังประชาชน 15 ล้านครัวเรือนทั่วประเทศ

การอนุญาตครอบครองและใช้กัญชา ทำให้แคนาดาเป็นประเทศที่ 2 ของโลกที่ผ่านกฎหมายนี้สำเร็จ ตามหลังอุรุกวัย แม้ก่อนหน้านี้ โปรตุเกสและเนเธอร์แลนด์จะปลดกัญชาออกจากบัญชียาเสพติดร้ายแรง แต่ไม่มีกฎหมายรับรองว่ากัญชาเป็นสิ่งถูกกฎหมาย

ที่ผ่านมา ภาครัฐและภาคธุรกิจของแคนาดาได้เตรียมตัวกันเป็นเวลาหลายเดือนก่อนที่กฎหมายนี้จะมีผลบังคับใช้ โดยทางการของแต่จะรัฐจะต้องแจกแจงรายละเอียดว่าจะจะมีการซื้อขายกัญชากันที่ไหนได้บ้าง รวมถึงกำหนดกฎเกณฑ์ในการซื้อขายกัญชา

นักวิเคราะห์หลายคนคาดการณ์ว่า แคนาดาอาจขาดแคลนกัญชาเพื่อการสันทนาการในช่วงปีแรกที่มีการบังคับใช้กฎหมายนี้ เนื่องจากการผลิตและการออกใบอนุญาตขายกัญชาอาจไม่มากพอกับความต้องการของผู้บริโภค ขณะเดียวกันหลายฝ่ายยังคงกังวลถึงผลกระทบต่อสุขภาพและความปลอดภัยของประชาชน รวมถึงความพร้อมของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการปราบปรามการเมากัญชาแล้วขับ

การเปิดเสรีกัญชาในแคนาดาถือเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญที่ นายจัสติน ทรูโด ใช้ในการหาเสียงชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแคนาดา โดยรัฐบาลพรรคเสรีนิยมมองว่าการใช้มาตรการเข้มงวดในการปราบปรามยาเสพติดไม่สามารถลดจำนวนคนติดยาเสพติดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ชาวแคนาดาเป็นหนึ่งในประเทศที่มีคนติดยาเสพติดมากที่สุดในโลก 

ดังนั้น นายทรูโดและพรรคเสรีนิยมเชื่อว่า การอนุญาตการครอบครองและใช้กัญชาจะควบคุมไม่ให้เยาวชนเข้าถึงยาเสพติดได้มากขึ้น ตัดโอกาสของกลุ่มอาชญากร และคาดว่าภาษีกัญชาจะสร้างรายได้ให้รัฐบาลประมาณ 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

สำนักข่าวบีบีซีระบุว่า กฎหมายนี้จะช่วยให้นายทรูโดชนะการเลือกตั้งในปี 2562 หรือไม่ จะขึ้นอยู่กับว่าการเปิดเสรีกัญชาจะช่วยให้เยาวชนเข้าถึงยาเสพติดอื่นได้น้อยลงหรือไม่ กฎหมายนี้ลดภาระให้กับระบบยุติธรรมได้หรือไม่ และลดอำนาจของตลาดมืดที่ค้ายาเสพติดลงได้หรือไม่