จากการที่เอไอเอส ชนะการประมูลคลื่นความถี่ย่าน 1800 เมกะเฮิร์ซ จำนวน 5 เมกะเฮิร์ซ 1 ใบอนุญาต เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยได้ชำระค่าประมูลในงวดที่ 1 จำนวน 6,693 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) พร้อมหนังสือค้ำประกันของธนาคารอีก 6,693 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) สำหรับการชำระเงินในส่วนที่เหลือ ให้ กสทช. เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2561 ที่ผ่านมา
ทำให้เอไอเอสกลายเป็นผู้ให้บริการดิจิทัล ที่ถือครองคลื่นความถี่มากที่สุดในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม รวมทั้งสิ้น 120 เมกะเฮิร์ซ ประกอบไปด้วย คลื่นความถี่ 1800 เมกะเฮิร์ซ จำนวน 40 เมกะเฮิร์ซ , คลื่นความถี่ 2100 เมกะเฮิร์ซ จำนวน 30 เมกะเฮิร์ซ ที่เป็นของเอไอเอสเอง และอีก 30 เมกะเฮิร์ซ ที่เป็นพันธมิตรร่วมกับ TOT และคลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิร์ซ อีกจำนวน 20 เมกะเฮิร์ซ
โดยในวันที่ 24 ก.ย.61 เอไอเอส โดยคณะผู้บริหารพร้อมพนักงานและพรีเซ็นเตอร์ เข้ารับใบอนุญาตคลื่น 1800 เมกะเฮิร์ซ อย่างเป็นทางการจาก กสทช. โดย นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส กล่าวว่า ขอบคุณรัฐบาลและ กสทช. ที่จัดประมูลคลื่น เพราะเป็นการนำทรัพยากรที่เป็นสมบัติสาธารณะของชาติมาใช้ให้เกิดประโยชน์ โดยเอไอเอส ในฐานะที่ประมูลคลื่นมาได้ จะนำไปสร้างประโยชน์ ต่อยอดการเติบโตของเศรษฐกิจประเทศ และช่วยยกระดับการใช้ชีวิตของคนไทยอย่างเป็นรูปธรรม โดยจะเริ่มให้บริการตั้งแต่วันศุกร์ที่ 28 กันยายนนี้เป็นต้นไป
ทั้งนี้ คณะผู้บริหาร พนักงาน และพรีเซนเตอร์ อย่าง เจมส์-จิรายุ และ แต้ว-ณฐพร ร่วมกันประกาศหลังจากรับใบอนุญาตว่า ในฐานะ ที่ 1 ตัวจริง ซึ่งเร็ว แรงที่สุด ด้วยคลื่นมากที่สุดทั่วไทย พร้อมจะส่งมอบบริการคุณภาพดีในทุกด้าน ไม่ว่าจะ���ป็นเครือข่ายจากเทคโนโลยีระดับโลก สมาร์ทโฟนยอดนิยมหลายรุ่น ที่มาพร้อมโปรโมชั่นที่คุ้มค่าและตอบโจทย์ บริการดิจิทัลและคอนเทนต์ระดับโลก รวมถึงบริการที่ทำให้อุ่นใจได้ตลอด 24 ชั่วโมง