นักวิเคราะห์ Talking Thailand ปล่อยผ่าน หลัง “ปารีณา” แถลงข่าวตอบโต้ “เสรีพิศุทธ์” ประธาน กมธ. ปราบโกง กล่าวหาดึงเรื่องไม่สอบ ปมกรณีที่ดินของ “สมพร แม่ธนาธร” ขู่สัปดาห์หน้าจะป่วนอีก
ขณะที่ “สิระ” ออกหน้า ปม “วีระ สมความคิด” ที่เดินหน้าเอาผิดพ่อลูก “ไกรคุปต์” รุกป่า แถมดูถูก จะใช้เงินจ้างให้ตรวจสอบนักการเมืองฝั่งตรงข้ามรัฐบาล
การประชุมคณะกรรมาธิการ การป้องกันและปราบปรามการทุจริต ประพฤติมิชอบสภาผู้แทนราษฎร วันนี้ มีวาระการตรวจสอบการถือครองที่ดินของ นายทวี และน.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ โดยนายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน ได้รับเชิญให้มาชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติม
นายวีระ เชื่อว่า มีกระบวนการจากภาครัฐ พยายามให้ความช่วยเหลือ พร้อมขอให้กรรมาธิการ เรียกผู้เกี่ยวข้องให้ข้อมูล พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า การที่พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เข้ามารับผิดชอบคดีนายทวี และขอสำนวนคดีจากสถานีตำรวจภูธรอำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี มาไว้ที่ส่วนกลาง อาจได้รับคำสั่งโดยตรงจากนายกรัฐมนตรี โดยมีเป้าหมายคือ ต้องการให้การดำเนินคดีกับนายทวี และ นางสาวปารีณาเกิดความล่าช้า ที่ประชุม จึงมีมติให้เชิญ พล.ต.อ.ศรีวราห์ และผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรสวนผึ้ง มาชี้แจง ว่ามีอำนาจหน้าที่ดังกล่าวหรือไม่
ส่วนกรณีที่ดินฟาร์มไก่ เขาสนฟาร์ม นายวีระ ย้ำว่าการตรวจสอบจะไม่เกิดขึ้น หากน.ส.ปารีณา ไม่อ้างว่าตัวเองรู้กฎหมาย และไปเอาผิดกรณีการถือครองที่ดินของ นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดา นายธนาธร หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ พร้อมนำบทให้สัมภาษณ์ รวมถึงเอกสารแจ้งการถือครองที่ดิน และการเสียภาษี มามอบให้กับคณะกรรมาธิการ โดยยืนยันว่า น.ส.ปารีณา ยอมรับเองว่าเป็นผู้ถือครองที่ดินทั้ง 1,700 ไร่ และเชื่อว่าสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม ซึ่งอยู่ในการดูแลของ ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ คอยให้ความช่วยเหลือ
ทั้งนี้ในระหว่างการหารือ นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะ กมธ. ซักถาม นายวีระ ถึงการดำเนินการตรวจสอบการรุกที่ป่า ว่า พร้อมที่จะตรวจสอบที่รุกล้ำแม่น้ำของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ประธาน กมธ.ชุดนี้ หรือไม่ หรือมุ่งเป้าดำเนินการตรวจสอบที่ดินของบุคคลฝ่ายรัฐบาลอย่างเดียว โดย นายวีระ ยืนยันในที่ประชุมว่า การดำเนินการทุกอย่างหากมีหลักฐานและข้อมูลที่เพียงพอ ก็จะเดินหน้าร้องเรียนแน่นอน
การประชุมและหารือในกรรมาธิการ ได้ผ่านไประยะเวลาหนึ่ง ซึ่งมีการซักถามและตอบคำถามกันไปมา จน นายสิระ ก็ได้สอบถาม นายวีระ อีกครั้งว่า การดำเนินการตรวจสอบการรุกพื้นที่ป่าของนักการเมืองนั้น มีการดำเนนการด้วยตัวเองหรือไม่
เพราะจากการตรวจสอบ กลับไม่พบการดำเนนการกับนักการเมืองฝ่ายที่อยู่ตรงข้ามกับรัฐบาล หากไม่ดำเนินการ ก็จะขอจ้าง นายวีระ เพื่อให้ดำเนินการตรวจสอบ ทำให้ นายวีระ ไม่พอใจ และต่อว่ากลับว่า การดำเนินการนี้ดูถึงผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก ไม่จำเป็นต้องมีการจ้างวาน ดังนั้น การกล่าวหาของ นายสิระ ถือเป็นการดูถูกอย่างมาก นายสิระ จึงชี้แจงกลับว่า เป็นความหวังดีที่อยากสอบถามกรณีดังกล่าว
หากเป็นการดำเนินการที่สุจริต ก็ไม่ว่าอะไรต่อมา น.ส.ปารีณา แถลงข่าว หลังการประชุมคณะกรรมาธิการป้องกัน ปราบปรามการทุจริตฯ ว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ดึงเรื่องมารดาของนายธนาธร บุกรุกพื้นที่ป่า ซึ่งเป็นที่ดินซึ่งอยู่ติดกับที่ดินของ น.ส.ปารีณา ไม่ให้สอบสวน และไม่มอบหมายให้ผู้ใดประมวลเรื่องหรือสอบสวน รวมถึง ดึงเรื่องที่ได้รับมอบหมายให้ตรวจสอบ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ตามที่ประชาชนร้องเรียนในข้อหาหมิ่นเบื้องสูง และมีพฤติกรรมทุจริตหลายเรื่องคืนด้วย และไม่มอบหมายให้กมธ.ฯ คนใดตรวจสอบต่อเช่นกัน พฤติกรรมที่ประธานกมธ.ฯ ดึงเรื่องที่มอบหมายให้กมธ. ตรวจสอบรายละเอียดกลับนั้น ยังไม่เคยมีในกมธ. ซึ่งตั้งข้อสังเกตว่าต้องการปกป้องตนเองและไม่ต้องการให้ใครตรวจสอบ
“ประธาน กมธ. ขอมติดึงเรื่องคืน ทั้งที่ไม่ครบองค์ประชุม และถามเพียงว่าใครที่เห็นด้วยที่จะไม่ให้ดินฉันตรวจสอบ ซึ่งประธานกมธ.ฯ ออกเสียงร่วมด้วย โดยไม่ถามว่ามีใครที่เห็นแย้งหรือไม่ ทั้งที่เรื่องตรวจสอบกรณีของพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์นั้น ดิฉันตรวจสอบรายละเอียดไประดับหนึ่งแล้ว อย่างไรก็ดีสัปดาห์หน้าดิฉันจะยื่นเรื่องเหล่านี้ให้กมธ. พิจารณาอีกครั้ง” น.ส.ปารีณา กล่าว