รายการ Talking Thailand ประจำวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2563
“คำผกา” ชี้ “ปิยบุตร” ได้เขียนประวัติศาสตร์ไว้กลาง “รัฐสภา” แล้ว แม้อาจผิดหวังไม่สามารถสร้างประวัติศาสตร์ให้ประเทศไร้รัฐประหาร เหตุ ส.ส. คนดี 242 คน ยินยอมพร้อมใจจะเป็นลูกน้องนายพล หักหลังประชาชน ทรยศอาชีพผู้แทนโดยเฉพาะบางพรรคที่ “อ.วิโรจน์” บอก เคยประกาศตัว ต่อสู้เพื่อประชาชน เป็นแบบนี้ก็ขอให้เลิกพูด เลยขาย เรื่องอุดมการณ์
นายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส. บัญชีรายชื่อและเลขาธิการ พรรคอนาคตใหม่ กล่าวสรุปญัตติ เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญหาแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดการรัฐประหาร ขึ้นอีกในอนาคต ว่า ขอบคุณสมาชิกที่ร่วมอภิปรายญัตตินี้ 47 ท่าน ซึ่งการรัฐประหาร 2 ครั้งล่าสุดเป็นต้นเหตุของการเกิดวิกฤติการการเมือง ที่ผ่านมาประเทศไทยไม่ใช่วิถีทางประชาธิปไตยในการแก้ไขปัญหาการเมือง
แต่กลับใช้การรัฐประหาร เกิดการแตกขั้วทำลายความชอบธรรมจากการเลือกตั้งและความชอบธรรมจากการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ ดังนั้นรัฐประหารปี 2549 และซ่อมอีกครั้งในปี 2557 แสดงให้เห็นว่าไม่สามารถสร้างหลักการเสรีประชาธิปไตยและสร้างความศรัทธาของประชาชนต่อระบบต่างๆ มาได้
นายปิยบุตร กล่าวว่า รัฐประหารเกิดไม่ได้หานายทหารระดับปฏิบัติการ ข้าราชการไม่ยินยอม และโต้แย้ง นิติกรไม่ช่วยเขียนกฎหมายป้องกันคณะรัฐประหารหลังรัฐประหาร ศาลตัดสินลงโทษ และ ส.ส. พร้อมใจกันต่อต้านรัฐประหาร นักธุรกิจและนายทุนไม่เป็นท่อน้ำเลี้ยง สื่อมวลชนพร้อมใจนำเสนอข่าวต่อต้านรัฐประหารไม่เรียก ‘บิ๊ก’ ไม่เรียก ‘ลุง’ ถ้าคนไทยมีสำนึกในประชาธิปไตยและต่อต้านรัฐประหารรัฐประหารไม่มีทางสำเร็จ
ที่ผ่านมา ทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้านสามารถสร้างฉันทามติร่วมกันได้ จนเกิดเป็นคณะกรรมาธิการมาหลายชุด ดังนั้นการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ นี้ เป็นการประกาศศักดิ์ศรีของผู้แทนราษฎรว่าจะไม่ยอมจำนนต่อคณะรัฐประหาร และไม่ใช่ผู้แทนของคณะรัฐประหาร อีกทั้งญัตตินี้ไม่มีผลต่อความมั่นคงของรัฐบาล ไม่กระทบการทำงานของรัฐบาลที่ยังบริหารงานต่อไปได้ แต่แค่อาจจะกระทบกับความรู้สึกของนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีบางคนที่ได้ตำแหน่งเพราะยึดอำนาจเขามา
แต่ถ้า ส.ส. ไม่ลงมติตั้งคณะกรรมาธิการฯ เพราะเกรงใจ ตนก็มีคำถามว่าตกลงแล้วเราเป็นผู้แทนของราษฎร หรือเป็นลูกน้องของนายพล เพราะถ้าไม่ลงมติตั้งคณะกรรมาธิการ มันแสดงให้เห็นว่าเงาของรัฐประหารยังเวียนอยู่รอบรัฐสภา แต่ที่ประชุมตัดสินใจตั้งคณะกรรมาธิการฯ ก็แสดงให้เห็นว่า ส.ส. พร้อมใจกันร่วมมือไม่ให้เกิดรัฐประหารขึ้นมาอีก
แต่ท้ายที่สุด การลงมติ มี ส.ส.ไม่เห็นด้วยให้ตั้งคณะกรรมาธิการฯ 242 ต่อ 215 งดออกเสียง 2 เสียง จากองค์ประชุม 459