"ติ๋ม ทีวีพูล" พอใจ หลังศาลปกครองกลาง ชี้ กสทช.ทำผิดสัญญา ทำให้คืนใบอนุญาตได้ พร้อมให้ กสทช. คืนแบงก์การันตีรวมเป็นเงินกว่า 1,500 ล้านบาท ด้าน เลขาธิการ กสทช. พอใจ คำวินิจฉัย เชื่อเป็นบรรทัดฐานให้ทีวีช่องอื่น ส่วนจะอุทธรณ์ทั้งหมดหรือไม่อยู่ที่การประชุมบอร์ดเช้าวันนี้ (14 มี.ค.61)
นางพันธุ์ทิพา ศกุณต์ไชย หรือ "ติ๋ม ทีวีพูล" กรรมการผู้มีอำนาจของบริษัทไทยทีวีจำกัด กล่าวภายหลังศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาให้ชนะคดี โดยมีสิทธิ์บอกเลิกการให้บริการทีวีดิจิทัลได้ ว่า พอใจ ที่ศาลชี้ว่า กสทช.ทำผิดจริง ซึ่งศาลสั่งให้ กสทช.คืนแบงก์การันตีให้บริษัทไทยทีวีในงวดที่ 3 , 4 , 5 และ 6 มูลค่ารวมกว่า 1,500 ล้านบาท
แต่ศาลไม่ได้ให้ชดใช้ค่าเสียหายจำนวน 700 ล้านบาท ตามที่ขอไป จึงจะยื่นอุทธรณ์เพิ่มเติมในส่วนนี้ โดยจะต้องรวบรวมเอกสารหลักฐานเพิ่มเติม ซึ่งมั่นใจว่ามีเอกสารที่ชี้ให้เห็นว่า กสทช.ทำผิดสัญญาจนทำให้เกิดความเสียหาย
ด้านนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. เปิดเผยภายศาลปกครองกลางมีคำวินิจฉัยคำร้องที่บริษัทไทยทีวี ร้อง กสทช. ออกคำสั่งโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายเพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการทีวีดิจิทัล และให้ชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตว่า สำนักงาน กสทช. รับทราบคำสั่งศาลปกครองกลางแล้ว โดยจะคัดคำพิพากษาศาลฯเสนอต่อที่ประชุมบอร์ด กสทช.วันนี้ (14 มี.ค.)
แต่ส่วนตัวพอใจกับคำวินิจฉัยของศาล สำนักงานฯต้องขอขอบคุณผู้ประกอบการที่หาทางออกให้ผู้ประกอบการทีวีทุกช่อง มองว่าเป็นหลักการที่ดีที่ผู้ประกอบการที่ต้องการจะคืนใบอนุญาตจะได้มีหลักการในการดำเนินการได้ สำหรับการอุทธรณ์คำวินิจฉัยบอร์ด กสทช.จะพิจารณาอีกครั้ง
และวันที่ 15 มีนาคม 2561 นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เชิญสมาคมผู้ประ���อบการทีวีดิจิทัลไปหารือถึงมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล โดยจะเชิญผู้ประกอบการทุกกลุ่มและกสทช.ไปประชุมที่ทำเนียบรัฐบาล
สำหรับคดีนี้ ศาลปกครองกลางนัดอ่านคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ 652/2559 ระหว่าง บริษัท ไทยทีวี จำกัด ของนางพันธุ์ทิพา ศกุณต์ไชย หรือรู้จักในชื่อ ติ๋ม ทีวีพูล ยื่นฟ้อง คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในคดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐออกคำสั่งโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยฟ้องขอให้เพิกถอนคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่บริษัท ไทยทีวี จำกัด ซึ่งเป็นผู้ชนะประมูล 2 ช่องทีวีดิจิทัล ได้แก่ช่อง Loca และ ช่องไทยทีวี ได้ยื่นฟ้องว่า คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ มีคำสั่งตามหนังสือที่ สทช 4010/5495 ลว. 12 ก.พ. 2559 เพิกถอนใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ และประกอบกิจการโทรทัศน์ เลขที่ B1-S20031-0024-57 และ B1-S20031-0017-57 และให้ชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาต โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย อ้างว่าผู้ฟ้องคดีไม่ชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตดังกล่าวให้ถูกต้องครบถ้วนก่อนเลิกการประกอบกิจการ ซึ่งผู้ฟ้องคดีเห็นว่า คำสั่งดังกล่าวตกเป็นโมฆะเนื่องจากผู้ฟ้องคดีได้แจ้งยกเลิกใบอนุญาตและยุติการดำเนินการตามใบอนุญาตดังกล่าวไปก่อนแล้ว จึงเป็นเหตุให้ผู้ฟ้องเสียหาย
โดยศาลได้พิเคราะห์แล้วเห็นว่า บริษัทไทยทีวี ผู้ฟ้องคดีมีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้ เนื่องจาก กสทช. ไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้ประกาศเชิญชวนไว้ ดังนั้นเมื่อคู่กรณีบอกเลิกสัญญาแล้ว จึงให้ กสทช. คืนหนังสือค้ำประกันของธนาคารกรุงเทพ ที่ได้วางไว้คืนแก่บริษัทไทยทีวีด้วย ภายใน 60 วันนับแต่คดีถึงที่สุด ส่วนคำขออื่นศาลให้ยกทั้งหมด