เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2561 ที่ห้องประชุมวายุภักษ์ 201 โรงแรมเซนทารา ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ พรรคไทยศรีวิไลย์ จัดเสวนาแสดงเจตนารณ์ทางการเมืองของพรรคและประชุมเลือกหัวหน้าพรรค โดยมีว่าที่หัวหน้าพรรคคือ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เลขาธิการภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่นของชาติและอดีตผู้ชำนาญประจำสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ-สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ  

นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า การรัฐประหารปี 2549 แสดงให้เห็นว่าประชาชนทนไม่ได้กับรัฐบาล ดร.ทักษิณ ชินวัตร จนกระทั่งสมัย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็มีปัญหาโครงการจำนำข้าว จึงมองว่า รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง สุดท้ายเป็นเผด็จการรัฐสภาและไม่ได้ทำเพื่อผลประโยชน์ประชาชนอย่างแท้จริง ดังนั้น จึงดีใจที่เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 57 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยึดอำนาจมาห้ามทัพไม่ให้ประชาชนฆ่ากัน และช่วง 1-2 ปีแรก คสช. ก็บริหารราชการดี 

แต่ล่าสุดชีวิตความเป็นอยู่ปากท้องประชาชนมีปัญหา มองว่าปัจจุบันรายได้กระจุกตัวอยู่กับนักธุรกิจใหญ่ 2 ตระกูลที่ครอบงำโครงการประชารัฐ ฉะนั้น ประชาชนลำบากยากเข็ญแสนสาหัส

เรามองว่ารัฐบาลอยู่มา 4 ปีแล้ว ถึงเวลาแล้วที่เราต้องปลดปล่อยประเทศไทย ปลดปล่อยพันธนาการที่เราเคยยอม ต่อไปเราจะไม่ยอม ดังนั้น จึงจำเป็นต้องตั้งพรรคไทยศรีวิไลย์ เป็นพรรคของประชาชนเพื่อประชาชน 

ว่าที่หัวหน้าพรรคศรีวิไลย์ กล่าวด้วยว่า สถานการณ์ที่ผ่านมา เห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ต่อท่ออำนาจในการลงพื้นที่แต่ละจังหวัดแล้วแต่งตั้งตำแหน่งทางการเมืองให้นักการเมืองเป็นการกวาดต้อน เหมือนสัญญาว่าจะให้ ซึ่งในอนาคตถ้ามีการเลือกตั้งแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ได้เป็นนายกรัฐมนตรี คาดว่าตั้งแต่วันแรกที่มีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จะถูกร้องเรียนตั้งแต่วันแรก เพราะท่านอาจจะใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ อาจจะใช้งบประมาณแผ่นดินไปในทางที่เอื้อประโยชน์ให้กับตัวเองในอนาคตซึ่งไม่เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล ที่ท่านได้พูดไว้ 

ไม่ใช่ไม่สนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ มาจากการเลือกตั้ง แต่การเลือกตั้งต้องมีธรรมาภิบาล ไม่เอาเปรียบผู้อื่น ถ้าท่านจะมาเป็นนายกรัฐมนตรีอย่างสง่างาม โดยการแข่งขันที่เท่าเทียมกัน โดยการออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ออกจากตำแหน่งหัวหน้าคสช.ก่อน หลังจากนั้นกลับเข้ามา ไม่มีใครว่า 

ด้าน พล.อ.กิตติศักดิ์ รัฐประเสิริฐ รองประธานภาคีเครือข่ายธรรมาภิบาลแห่งชาติและอดีตผู้ช่วยหัวหน้านายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำ รมว.กลาโหม(นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี) กล่าวเรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา หากจะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี พร้อม ครม.ชุดเดิม จะต้องลาออกทั้งหมด แล้วมาลงเลือกตั้งจึงจะเป็นธรรม ทั้งนี้ จะไปล่ารายชื่อทุกพรรคว่าเห็นด้วยหรือไม่ ถ้ายังไม่ลาออกจะไปถวายฎีกาขอให้มีรัฐบาลเฉพาะกาล สู่การเลือกตั้งที่เป็นธรรม ส่วนตัวมองว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นผู้นำประเทศแต่กลับเดินหาเสียงด้วยงบประมาณแผ่นดินและยังดูดนักการเมืองจากพรรคอื่นๆ ด้วย  

นายณัชพล สุพัฒนะ หรือ มาร์ค พิทบูล ประธานชมรมคนคุณภาพ กล่าวว่า เดิมเกลียดนักการเมืองแต่กำลังจะมาเป็นนักการเมือง เนื่องจากมาเจอนายมงคลกิตติ์ ว่าที่หัวหน้าพรรคตอนไปช่วยครูจอมทรัพย์ด้วยกัน ได้พูดคุยกันแล้วตกลงกันว่าจะแก้ไขเรื่องทุจริตโดยไม่มีประนีประนอม นอกจากนั้น ต้องทำให้ทุกคนเท่าเทียมกันภายใต้กฎหมาย คนรวยทำผิดต้องติดคุกไม่ใช่หนีไปเที่ยวต่างประเทศ แต่คนจนไม่มีเงินประกันตัว