เมื่อวันพุธ (27 ก.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจเยอรมนีได้บุกโจมตีค้นอะพาร์ตเมนต์จำนวน 26 ห้อง ที่เป็นที่อยู่ของสมาชิกของเครือข่ายอาร์ตเกอไมน์ชาฟต์ 39 คน ใน 12 รัฐของเยอรมนี ซึ่งรวมถึงรัฐบาวาเรีย บาเดิน-เวือร์ทเทมแบร์ก และบรันเดินบวร์ก
กระทรวงมหาดไทยเยอรมนีระบุว่า สมาคมดังกล่าวนี้มีสมาชิกประมาณ 150 คน และมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มขวาจัดหลายกลุ่ม พร้อมกันนี้ กระทรวงมหาดไทยเยอรมนียังได้ระบุอีกว่า กลุ่มดังกล่าวได้ปกปิดตัวเอง ด้วยการใช้ “ความเชื่อทางศาสนาตระกูลเจอร์แมนิกหลอกลวงในนามพระเจ้า เพื่อเผยแพร่โลกทัศน์ซึ่งละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์”
สมาคมพยายามเปลี่ยนคนรุ่นใหม่ ให้รับเอาทฤษฎีเกี่ยวกับเชื้อชาติมาใช้ โดยอาศัยการเผยแพร่เนื้อหาวรรณกรรมสมัยนาซี นอกจากนี้ ทางสมาคมดังกล่าวยังมีร้านหนังสือออนไลน์ ที่พยายามสร้างความรุนแรงและดึงดูดผู้ที่ไม่ใช่สมาชิกให้เข้าชมอีกด้วย
“นี่เป็นการโจมตีเพิ่มเติมต่อลัทธิหัวรุนแรงฝ่ายขวา และผู้ก่อกวนทางสติปัญญาที่ยังคงเผยแพร่อุดมการณ์ของนาซีจนถึงทุกวันนี้” แนนซี เฟเซอร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเยอรมนีกล่าว “กลุ่มขวาจัดนี้พยายามสร้างศัตรูรายใหม่ต่อรัฐธรรมนูญ ด้วยการปลูกฝังเด็กและเยาวชนอย่างน่าขยะแขยง”
ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เยอรมนีได้สั่งแบนกลุ่มขวาจัดหลายกลุ่ม โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัฐบาลเยอรมนีได้สั่งห้ามกลุ่มในท้องถิ่นอย่างที่มีฐานมาจากกลุ่มแฮมเมอร์สกินส์ นีโอนาซี ซึ่งมีฐานอยู่ในสหรัฐฯ ซึ่งกลุ่มดังกล่าวเป็นที่รู้จักกันดี จากคอนเสิร์ตดนตรีร็อกแนวเชิดชูคนผิวขาว
ในเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา ตามรายงานที่นำเสนอโดย BfV สำนักข่าวกรองภายในเยอรมนีของรัฐบาลกลางระบุว่า เยอรมนีมีผู้คนประมาณ 38,800 คน ที่เป็นสมาชิกในกลุ่ม “หัวรุนแรง” ฝ่ายขวาในเยอรมนีเมื่อปี 2565 เพิ่มขึ้นจาก 33,900 คนในปี 2564 นอกจากนี้ จำนวนผู้ที่ถูกพิจารณาว่ามีเกณฑ์ ที่อาจความรุนแรงในเยอรมนี มีอัตราการเพิ่มขึ้นจาก 13,500 คนเป็น 14,000 คนด้วย
ที่มา: