ไม่พบผลการค้นหา
‘นายกฯ​ เศรษฐา’ ตรวจสถานีรถไฟหัวหิน​ วันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์​ - เผย ปชช.ตอบรับดี​ ยกระดับการบริการ​ ตรงเวลารวดเร็ว​ - บอก​ ถ.พระราม​ 2 จราจรดีขึ้น​ เป็นเพราะบริหารจัดการ​ แต่ขากลับยอมรับอาจติด​ - ขณะที่ ปชช.แห่ถ่ายรูป​ - ตะโกน “ขอบคุณ​เงินหมื่น”

เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ปฏิบัติภารกิจในช่วงวันหยุดยาว เนื่องในเทศกาลสงกรานต์ โดยเดินทางมาตรวจการเดินทางประชาชน ที่สถานีรถไฟหัวหิน พร้อมพบปะประชาชน โดยมี สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ,พวงเพ็ชร​ ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ,ชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม ,รัดเกล้า อินทวงศ์ และ เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมคณะ​ โดยมี พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ​ พันธุ์​เพ็ชร์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นำตำรวจท่องเที่ยวมาประชาสัมพันธ์งาน

ทันนี้เมื่อนายกรัฐมนตรี เดินทางมาถึงได้มีประชาชนมารอต้อนรับ โดยตะโกนว่า “ขอบคุณนายกรัฐมนตรีสำหรับเงินดิจิทัล 10,000 บาท” จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้สอบถามประชาชน ว่าเดินทางมารถติดหรือไม่ พร้อมกับระบุว่า เป็นเพราะการบริหารจัดการที่ดี

จากนั้นได้มีประชาชนนำลูกชาย​ ​2 คน นำพวงมาลัยดอกดาวเรืองมามอบให้ พร้อมกับขอบคุณที่เดินทางมาหัวหินอีกครั้ง และขอถ่ายรูปอย่างเป็นกันเอง​ 

จากนั้นนายกรัฐมนตรี​ ได้เดินทักทายนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ก่อนที่จะขึ้นไปตรวจชานชาลาชั้น 2 พร้อมกับให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน​ ภายหลังสถานีรถไฟหัวหินมีการปรับปรุงใหม่ ว่า ก็ดี แต่ที่สำคัญมากกว่ามี 2 อย่างคือฮาร์ดแวร์​ คือสถานที่​ ซึ่งสถานีเพิ่งเปิดใหม่ก็ดูสะอาดโล่ง กว้างขวางดี แต่ยังขาดสีเขียวตนจึงได้กำชับนายสถานีว่าอยากให้มีการเพิ่มเติมกระถางต้นไม้ให้มีความ นุ่มนวลลงบ้าง 

ส่วนเรื่องซอฟแวร์ ตารางเดินรถที่แบบ Real Time. ซึ่งไม่ได้มีการจัดฉากไว้ เพราะตนเดินมาและได้สอบถามไปยังผู้โดยสาร รวมไปถึงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เปิดเผยว่าไม่ได้เดินทางโดยรถไฟมากว่า 30 ปี ซึ่งถือเป็นครั้งแรก รวมถึงได้พูดคุยกับนักท่องเที่ยวชาวไทยที่อยู่ด้านข้างก็บอกว่าตั้งแต่มีรถไฟรางคู่ การเดินรถไฟก็ตรงเวลา ฉะนั้นจะเห็นได้ว่าการเดินรถไฟตรงเวลามาก เพิ่งเห็นได้จากการเดินรถจากกรุงเทพฯ มาหัวหินใช้ระยะเวลาเพียง 3 ชั่วโมงจาก 5 ชั่วโมงกว่า​ และใช้เวลาเดินทางต่อไปถึงอำเภอหาดใหญ่จังหวัดสงขลาเพียง 4-5 ชั่วโมง ซึ่งถือว่าดีมาก 

นายกรัฐมนตรียัง กล่าวอีกว่า เรื่องราคาชั้นประหยัดจากหัวหินไปกรุงเทพฯ ค่าใช้จ่ายเพียง 40 บาท ซึ่งผู้โดยสารก็สะท้อนมาว่าราคาถูกไป แต่เจ้าหน้าที่การรถไฟชี้แจงว่าเป็นชั้นประหยัด จึงราคาถูกและมีความเหมาะสมเข้าถึงได้ ฉะนั้นก็ถือว่าราคาดีสถานที่ดีห้องน้ำสะอาด รถไฟตรงเวลา ตนก็เชื่อว่าผู้โดยสารพอใจ​ 

เมื่อถามว่า การเดินทางรถไฟช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพียงพอต่อการรองรับผู้โดยสารหรือไม่ นายกรัฐมนตรีระบุว่า จากการสอบถามได้รับรายงานว่าเพียงพอ และตนก็คิดว่าประชาชนจะใช้บริการมากขึ้น เพราะหลังจากที่มีการเดินรถไฟรางคู่ รวมถึงปรับปรุงเรื่องสถานีรถไฟ สามารถลดระยะเวลาได้มากขึ้น ไม่เหมือนกับการสัญจรทางถนนที่อาจจะมีความขรุขระลงไปบ้าง รวมไปถึงการจราจรที่หนาแน่น

เมื่อถามย้ำว่า มีแนวคิดที่จะปรับปรุงสถานีรถไฟอื่นให้คล้ายกับสถานีรถไฟหัวหินหรือ โดยเป็นในรูปแบบสถานที่ท่องเที่ยวหรือไม่​ นายกรัฐมนตรี​ ระบุว่า​ การพัฒนาเมืองรองให้เป็นเมืองหลัก โดยในเรื่องคมนาคม ระหว่างเมืองและจังหวัดใหญ่ๆ เป็นเรื่องที่สำคัญ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องอยู่ที่ความเหมาะสมด้วย ว่ามีรถไฟรางคู่แล้วหรือยัง เพราะเมื่อพัฒนาไปแล้วก็ต้องมาดูเรื่องเวลา ซึ่งทั้งหมดต้องมีความพร้อมทั้งระบบ ฉะนั้นต้องค่อยๆดูกันไป เพราะจะต้องดูเรื่องงบประมาณให้เหมาะสม

เมื่อถามถึงภาพรวมการเดินทางของประชาชนตั้งแต่ช่วงเมื่อคืนที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรี ระบุว่า จากการพูดคุยกับรัฐมนตรีและปลัดกระทรวงคมนาคม ก็ได้รับรายงานว่าเมื่อวานเป็นเพียงแค่การเริ่มต้น แต่การเดินทางจริงคือวันนี้ ซึ่งก็ได้รับการรายงานมาว่าไม่ต้องเป็นห่วง เนื่องจากมีสายด่วนตลอด รวมไปถึงมีการติดตามการจราจรแบบออนไลน์ตลอดเวลา​ ซึ่งจากการได้พูดคุยกับเพื่อนที่เดินทางมายังหัวหิน ทุกคนบอกตรงกันว่าระยะเวลาการเดินทางมาหากต่ำกว่า 4 ชั่วโมงถือว่าดีมาก ซึ่งเป็นไปตามที่คาดหวังไว้ แต่ตนเข้าใจว่าขากลับจะมีปัญหานิดหน่อย ฉะนั้น บางพื้นที่ไม่สามารถคืนพื้นที่ผิวการจราจรได้ แต่ถึงอย่างไรก็พยายามอยู่

เมื่อถามว่า ได้มีการประเมินเม็ดเงินที่จะสะพัดในช่วงเทศกาลสงกรานต์แล้วหรือไม่ นายกรัฐมนตรี​ ระบุว่า ตนชื่อว่ามีการประเมินแต่ตนยังไม่ได้ตรวจสอบตัวเลข แต่จากที่มีการพูดคุยกับทุกภาคส่วนทุกอย่างดีขึ้นหมดโรงแรมร้านอาหาร ร้านโชห่วย ร้านขายของที่ระลึกทุกอย่างดีขึ้น

อย่างไรก็ตามภายหลังการให้สัมภาษณ์เสร็จสิ้น นายกรัฐมนตรี ได้ยืนรอขบวนรถไฟที่เทียบชานชาลา พร้อมกับทักทายประชาชนที่ลงจากขบวน ก่อนที่จะสอบถามผู้สารนั่งวิลแชร์​ ได้รับความสะดวกในการบริการหรือไม่​ จากนั้นได้เดินกลับที่พัก