ไม่พบผลการค้นหา
'กมธ.ทหาร' เผย กอ.รมน.แจงจ่ายเงินให้ ส.ต.ท.หญิง กว่า 1.1 แสน ก่อนเรียกคืนหลังพบคุณสมบัติไม่ครบ กังขาข้อมูลย้อนแย้ง แนะกองทัพไทยเปลี่ยนวิธีรับคนเข้ารับราชการ ยกเลิกสัมภาษณ์ให้เป็นข้อเขียนล้วน จ่อประสานข้อมูล กมธ. ป.ป.ช. ผนึกกำลังสอบ ด้าน ผอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ไม่ตอบทุกคำถามหลังเจอสื่อซัก

วันที่ 1 ก.ย. 2565 ที่อาคารรัฐสภา มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ในฐานะโฆษกกรรมาธิการ (กมธ.) การทหาร สภาผู้แทนราษฎร กล่าวหลังการประชุมคณะกรรมาธิการฯ ที่เรียกเชิญผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) และผู้อำนวยการ กอ.รมน. ภาค 4 ส่วนหน้า เข้าชี้แจงข้อเท็จจริงกรณี ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ บัวแย้ม อาจเข้าสู่ราชการโดยวิธีมิชอบ และทำทารุณกรรม ส.ท.หญิง ปัทมา ศิริรัตน์ ทหารรับใช้

มงคลกิตติ์ เผยว่า จากการชี้แจงของทั้ง 2 หน่วยงาน ได้ความว่า ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ เข้ารับราชการเมื่อปี 2560 ซึ่งมีการตั้งคณะกรรมการสัมภาษณ์ ซึ่งทางกรรมาธิการฯ จะต้องขอเรียกเอกสารเพิ่มเติมเป็นบันทึกการสัมภาษณ์ จากนั้นต้นปี 2565 ได้ไปช่วยราชการที่ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ประมาณเดือน ก.พ. 2565 แต่ปัจจุบันออกจากราชการเป็นการชั่วคราว 

ซึ่ง กอ.รมน.ได้เรียกเงินคืนสิทธิประโยชน์ในส่วนของเบี้ยเสี่ยงภัยและเงินที่เกี่ยวข้องในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ประมาณ 1.1 แสนบาท ทั้งนี้ส.ต.ท.หญิง เข้าทำงานจริงหรือไม่นั้น ทางกอ.รมน.ระบุว่าสมัครไปตามเงื่อนไข แต่เมื่อตรวจสอบแล้วไม่ถูกต้องตามเงื่อนไขเพราะขาดคุณสมบัติ จึงต้องเรียกเงินคืน

ส่วน ส.ท.ปัทมา นายทหารหญิงรับใช้ รับราชการครั้งแรกที่โรงเรียนช่างฝีมือทหาร เป็นพนักงานธุรการ จากนั้นกรรมาธิการวุฒิสภาทำหนังสือเรียกตัวช่วยราชการ ในปี 2562 และ 2563 ต่อเนื่องถึงปัจจุบัน ซึ่งทางกรรมาธิการฯ ได้ขอดูหนังสือเรียกตัวช่วยราชการว่าลักษณะเป็นแบบใด พร้อมขอข้อมูลเพิ่มเติมจากกองบัญชาการกองทัพไทยในการสอบสัมภาษณ์ว่ามีผู้สมัครกี่คนสอบกี่คนและด้วยเงื่อนไขใดใดจึงรับ 10 เท่าหญิงเข้ารับราชการ ทั้งนี้ ส.ท.หญิง ยื่นหนังสือลาออกเมื่อเดือน พ.ค. แต่มีการอนุมัติในเดือน ส.ค. 2565 ซึ่งกรรมาธิการการทหาร ได้ขอหลักฐานเพื่อยืนยันว่าไม่ได้มีการทำเอกสารย้อนหลัง

ทั้งนี้ กรรมาธิการฯ ได้เสนอแนะไปยังกองบัญชาการกองทัพไทย ในการบรรจุแต่งตั้งข้าราชการที่จบปริญญาตรี หากเป็นไปได้ขอให้ยกเลิกการสอบสัมภาษณ์ และขอให้เป็นการสอบข้อเขียนทั้งหมด คล้ายการสอบเข้าโรงเรียน เพื่อปิดช่องโหว่ในการฝากคนเข้าทำงาน

นอกจากนี้ กอ.รมน. ยังชี้แจงว่า ปัจจุบันมีอัตรากำลังจร 54,100 นาย คือทหารที่ปรากฏชื่อในหน่วยงานแต่ไม่ได้ประจำการในพื้นที่จริง ทั้งทหาร ตำรวจและพลเรือนด้วย ซึ่งได้ให้ไปตรวจสอบว่ามีกี่เปอร์เซ็นที่ปฏิบัติราชการจริง โดย กอ.รมน.บอกว่าต้องใช้เวลาตรวจสอบ 

มงคลกิตติ์ ระบุว่าการตรวจสอบวันนี้เป็นเชิงเสนอแนะในการแก้ไขปัญหา ส่วนมีการทุจริตหรือไม่ต้องสอบเพิ่มเติม คือการสอบบรรจุแต่งตั้งในส่วน ส.ต.ท.หญิงกับ ส.ท.หญิง ต้องไปตรวจสอบในคณะกรรมการลับ ว่ามีการฝากกันหรือไม่หรือเข้าโดยระเบียบปกติ 

ส่วนจะมีการเชิญ ส.ว.คนที่ถูกพาดพิงเข้าชี้แจง กับ กรรมาธิการฯ หรือไม่นั้น มงคลกิตติ์ ระบุว่า กทธ.ยังไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้และหากเชิญจะมาหรือไม่ เพราะกรรมาธิการฯ มีอำนาจจำกัด ไมีมีอำนาจมากพอที่จะเรียกเจ้าหน้าที่รัฐมาสอบถามได้ 

มงคลกิตติ์ ยังระบุอีกว่ากรณีนี้บางส่วนอยู่ในอำนาจ กรรมาธิการการทหารฯ บางส่วนอยู่ในอำนาจกรรมาธิการ ป.ป.ช. ทั้งนี้จะมีการประสานงานกันระหว่าง 2 กรรมาธิการฯ เพื่อเชื่อมต่อข้อมูลร่วมกันและพิจารณาเพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น

กมธ ทหาร -83A3-4FBF-BBC9-74C2A9318E32.jpegกมธ กรรมาธิการ ทหาร -C36F-4A59-B625-229028DD625B.jpegสมชาย กรรมาธิการทหาร -D46B-4A1D-B09E-758CB2CF7087.jpeg

'รอง ผอ.รมน. ภาค 4' ปัดตอบทุกคำถาม บอกสื่อแจงไปหมดแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการประชุมคณะ กมธ.ทหาร สภาผู้แทนราษฎร ที่เรียกเชิญผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) และผู้อำนวยการ กอ.รมน. ภาค 4 ส่วนหน้า เข้าชี้แจงข้อเท็จจริงกรณี ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ บัวแย้ม อาจเข้าสู่ราชการโดยวิธีมิชอบ และทำทารุณกรรม ส.ท.หญิง ปัทมา ศิริรัตน์ ทหารรับใช้ นั้น โดย พล.ต.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ รอง ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ได้เดินออกจากห้องประชุมกรรมาธิการการทหารฯ ด้วยสีหน้าเรียบเฉย โดยกล่าวเพียงว่า ได้ชี้แจงในที่ประชุมกรรมาธิการไปหมดแล้ว ไม่มีอะไรต้องพูด 

เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามถึงสาเหตุที่ กอ.รมน.ให้ ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ ไปทำงาน และได้ปฏิบัติงานจริงหรือไม่ อีกทั้งหลังจากนี้ หากมีคณะกรรมาธิการฯ อื่นเรียกมาชี้แจง จะมาหรือไม่ ซึ่ง พล.ต.ปราโมทย์ ไม่ตอบทุกคำถาม เพียงระบุว่าทำไปตามขั้นตอน ชี้แจงไปหมดแล้วหลายครั้ง 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการประชุม กมธ.ทหาร สภาผู้แทนราษฎร ครั้งนี้ ผบ.สส. ส่งผู้ชี้แจงจากกองบัญชาการกองทัพไทย จำนวน 3 คน คือ 1. พล.อ.อ.สุวรรณ ขำทอง รองเสนาธิการทหาร (แทนผู้บัญชาการทหารสูงสุด) 2. พล.ท.สุรสีห์ ดรุณสาสน์ เจ้ากรมกำลังพลทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย และ 3. พ.อ.สโรช พารอด ผู้อำนวยการ กองการจัดการกำลังพล กรมกำลังพล กองบัญชาการกองทัพไทย 

ขณะที่ ผู้อำนวยการ กอ.รมน. ภาค 4 ส่วนหน้า ส่งผู้ชี้แจงจาก กอ.รมน. ภาค 4 ส่วนหน้า มาชี้แจง จำนวน 2 คน คือ 1. พล.ต.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ รองผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 ส่วนหน้า 2. พ.ท.วีรศรุตธ์ ประดิษฐสุวรรณ หัวหน้าแผนกนโยบายและแผน กองนโยบายและแผน สำนักอำนวยการข่าวกรอง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 ส่วนหน้า

ข่าวที่เกี่ยวข้อง