นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ อภิปรายถึงการตราพระราชกำหนด 3 ฉบับ เพื่อแก้ไขสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่า ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อทั่วโลกรวมกว่า 5 ล้านคน เสียชีวิตกว่า 3 แสนคนแล้ว สหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นประเทศที่มีชื่อเสียงด้านเศรษฐกิจและสาธารณสุข ติดเชื้อกว่า 1.7 ล้านคนแล้ว แต่ประเทศไทยเดิมเป็นประเทศติดเชื้ออันดับ 2 ต่อจากประเทศจีน ขณะนี้อยู่อันดับที่ 77 แล้ว จากการบริหารจัดการโดยรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นที่เชื่อถือในระดับโลก เหลือเพียงการแก้ไขฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบอย่างเร่งด่วน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกำหนด 3 ฉบับ ซึ่งมีการออกแบบมาด้วยความรอบคอบ คำนึงถึงปัญหาที่เกิดขึ้น
นายไพบูลย์ กล่าวว่า พระราชกำหนดฉบับแรก หรือที่เรียกว่า พ.ร.ก.เราไม่ทิ้งกัน 2020 คือให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน 1 ล้านล้านบาท เพื่อแก้ไขสถานการณ์ เยียวยา และฟื้นฟูผลกระทบ ต่อมาพระราชกำหนดที่ให้อำนาจธนาคารแห่งประเทศไทย ช่วยเหลือผู้ประกอบการวิสาหกิจที่ได้รับผลกระทบ วงเงิน 500,000 ล้านบาท ไม่ได้เป็นเงินที่ให้คณะรัฐมนตรีกู้ และ 3.คือพระราชกำหนดตั้งกองทุนช่วยเหลือตลาดตราสารหนี้ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ
นายไพบูลย์ อภิปรายย้ำถึง พ.ร.ก.เราไม่ทิ้งกัน 2020 ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน 1 ล้านล้านบาท ที่สำคัญที่สุด โดยนายกรัฐมนตรีมีวัตถุประสงค์อย่างแท้จริงเพื่อช่วยเหลือประชาชน โดย 45,000 ล้านบาท ใช้สำหรับแก้ไขสถานการณ์ ช่วยเหลือประชาชนและเกษตรกรอีก 555,000 ล้านบาท ซึ่งมีการดำเนินการไปแล้ว เดิมตั้งใจจะช่วย 14 ล้านราย ปรับเพิ่มเป็น 16 ล้านราย โดยเฉพาะการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดรัฐบาลไม่ได้ทอดทิ้งและช่วยเหลืออย่างใกล้ชิดทั้งหมด 10 ล้านราย วงเงิน 150,000 ล้านบาท ซึ่งรัฐบาลเตรียมเงินไว้ 1 ล้านบาทโดยการกู้เงินไม่ให้เกินเพดานหนี้สาธารณะที่ร้อยละ 60 ซึ่งการประมาณการอยู่ที่ร้อยละ 57 ถือว่ารัฐบาลดำเนินการอย่างรอบคอบ จึงยินดีที่จะสนับสนุนพระราชกำหนด 3 ฉบับ และนึกเหตุผลไม่ออกว่าฝ่ายค้านจะคัดค้านทำไม