ไม่พบผลการค้นหา
'ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย' ซัดคณะรัฐบาล สอบตกในการชี้แจง พ.ร.ก.กู้เงิน ชี้ สภาผู้แทนไม่ใช่ สภาตรายาง ไม่สมควรอนุมัติ 'ตีเช็คเปล่า'

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ระบุถึงการพิจารณาพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563, พระราชกำหนดการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบวิสาหกิจ ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563 และพระราชกำหนดการรักษาเสถียรภาพของระบบการเงินและความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ พ.ศ. 2563 วันที่ 3 ผ่านเฟซบุ๊กว่า 

ตนได้ติดตามพิจารณา พ.ร.ก.เยียวยาผลกระทบจาก โควิด-19 จำนวน 3 ฉบับ วงเงินรวม 1.9 ล้านล้านบาท ในสภามา 2 วันกว่า รู้สึกผิดหวังกับการนำเสนอของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะผู้นำรัฐบาล ที่ไม่เห็นความสำคัญของอำนาจประชาชน รวมทั้งตัวแทนประชาชนอย่างสภาผู้แทนราษฎร ทั้งที่เงินกู้จำนวนมหาศาลที่นำเข้าสู่สภา เพื่อพิจารณาอนุมัติหรือไม่อนุมัติในครั้งนี้ เป็นเงินกู้ที่ประชาชนชาวไทยจะต้องใช้หนี้กันไปชั่วลูกชั่วหลาน แต่รัฐบาลกลับไม่ยอมเสนอแผนงานและรายละเอียดการใช้เงินกู้จำนวนมหาศาลนี้ ให้ตัวแทนของประชาชนได้พิจารณา สภาผู้แทนไม่ใช่ สภาตรายาง ที่จะมาอนุมัติ ตีเช็คเปล่าให้รัฐบาล

โดยไม่ต้องมีรายละเอียดการใช้เงิน หรือตรวจสอบไม่ได้ อย่างที่เสนอมา ที่สำคัญการชี้แจง ตอบข้อซักถามของผู้แทนราษฎรพรรคเพื่อไทยและพรรคฝ่ายค้าน พล.อ.ประยุทธ์ และนายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง ก็ตอบไม่ชัดเจน ส.ส. เพื่อไทยหลายๆ คน ที่ได้อภิปรายซักถามด้วยความห่วงใย เรื่องการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐ ในการควบคุมที่ไม่ทั่วถึง ไม่ครอบคลุม คนที่เดือดร้อน กลับไม่ได้รับการเยียวยา แม้แต่ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม ซึ่งถือเป็นเงินออมของลูกจ้างเองแท้ ๆ ก็ไม่ได้รับเงินประกันตนคืน หรือได้รับน้อยมาก ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีวิต คนกำลังจะตายไม่ได้รับการเยียวยา แต่คนตายไปแล้วกลับได้รับเงินเยียวยา

เมื่อถามถึงแผนงานในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ 4 แสนล้าน ก็ไม่สามารถชี้แจงได้อย่างชัดเจนเพียงพอที่เราจะมั่นใจได้ว่า จะมีประสิทธิภาพเพียงพอต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจได้จริง โดยเฉพาะที่พรรคเพื่อไทยได้ถาม ถึงแนวทางการแก้ปัญหาในการฟื้นฟูเศรษฐกิจภายในประเทศ ที่จะต้องมีทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย รัฐบาลจะสร้างกำลังซื้อให้เกิดกับประชาชนได้อย่างไร ในเมื่อประชาชนหมดกำลังซื้อมานานแล้ว ลงทุนแล้วจะเอาไปขายใคร พลเอกประยุทธ์กลับไม่สามารถตอบคำถามใดๆได้ 

อีกปัญหาคือ คนตกงานประมาณ 8-10 ล้านคน รัฐบาลจะดูแลพวกนี้อย่างไร จะเอาอะไรให้พวกเขากิน ในเมื่อเงินเยียวยาจะหมดในเดือน มิ.ย.นี้แล้ว นี่คือความห่วงใยของพวกเราที่มีต่อความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน เราอยากเห็นรัฐบาลลงมือทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน อย่างจริงจัง ไม่ใช่สักแต่แก้ตัวไปวันๆ


อ่านเพิ่มเติม