ไม่พบผลการค้นหา
​รองนายกฯ ภูมิธรรม หารือ นายฌ็อง-โกลด ปวงเบิฟ เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสฯ ย้ำไทยพร้อมสานต่อความร่วมมือทุกมิติ มุ่งยกระดับความร่วมมือด้านความมั่นคงและอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ

วันนี้ (วันอังคารที่ 4 มีนาคม 2568) เวลา 13.30 น. ณ ห้องสุรศักดิ์มนตรี ชั้น 2 กระทรวงกลาโหม นายฌ็อง-โกลด ปวงเบิฟ (H.E. Mr. Jean-Claude Poimboeuf) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐฝรั่งเศสประจำประเทศไทย เข้าพบหารือกับนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยสรุปสาระสำคัญของการหารือ ดังนี้

รองนายกรัฐมนตรีฯ กล่าวต้อนรับและยินดีกับความสัมพันธ์ที่ราบรื่น โดยปีนี้จะครบรอบ 340 ปีของการเจริญสัมพันธไมตรีครั้งแรกระหว่างสยามกับฝรั่งเศส และจะครบรอบ 170 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-ฝรั่งเศส ในปี 2569 พร้อมยินดีที่มีการแลกเปลี่ยนการเยือนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งช่วยเสริมสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างสองประเทศ โดยไทยพร้อมสานต่อความร่วมมือทุกมิติ โดยเฉพาะด้านความมั่นคงและกลาโหม รวมไปถึงความร่วมมือในอุตสาหกรรมยุทโธปกรณ์และความร่วมมือด้านการลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของทั้งสองฝ่าย 

เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสฯ เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้พบกับรองนายกรัฐมนตรีฯ ยินดีกับความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศที่ดำเนินมาอย่างยาวนานและมั่นคง สะท้อนถึงการบรรลุความสําเร็จร่วมกันทั้งในอดีตจวบจนถึงปัจจุบัน ซึ่งฝรั่งเศสพร้อมขยายความร่วมมือเพื่ออนาคตที่มีร่วมกัน โดยเฉพาะการยกระดับความสัมพันธ์เป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ระหว่างไทยและฝรั่งเศส ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมา นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เยือนฝรั่งเศสถึง 2 ครั้งด้วยกันและได้พบกับประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส ซึ่งต่างเห็นพ้องที่จะร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดเพื่อยกระดับความสัมพันธ์ที่มุ่งเน้น 2 เสาหลักสำคัญ คือ ด้านเศรษฐกิจและด้านความมั่นคง โดยฝรั่งเศสพร้อมส่งเสริมความสัมพันธ์ให้ก้าวหน้าขึ้นในทุกมิติต่อไป

โดยทั้งสองฝ่ายได้หารือในประเด็นที่สำคัญ ดังนี้

ด้านการศึกษา รองนายกรัฐมนตรีฯ ขอบคุณกระทรวงกลาโหมฝรั่งเศสที่สนับสนุนที่นั่งศึกษาในหลักสูตรเสนาธิการทหาร และหลักสูตรวิทยาลัยเสนาธิการทหารฝรั่งเศส ณ โรงเรียนนายร้อยแซง-ซี (Saint-Cyr) ให้แก่นายทหารจากกองทัพไทยเป็นประจำทุกปี ซึ่งต่างเห็นพ้องว่าเป็นการช่วยพัฒนาขีดความสามารถของกำลังพลกองทัพไทย อีกทั้งยังเป็นสัญลักษณ์สำคัญของความสัมพันธ์ด้านการทหารระหว่างกันด้วย โดยเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสฯ ยินดีและพร้อมสานต่อความร่วมมือด้านการศึกษาให้แก่บุคลากรของกองทัพไทย

ด้านความมั่นคง ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะขับเคลื่อนกลไกการหารือและแลกเปลี่ยนแนวคิดด้านความมั่นคงระหว่างกันอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มพูนความสัมพันธ์ด้านการทหารระหว่างสองประเทศให้มากขึ้น ซึ่งเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสฯ ยินดีที่จะสนับสนุนผ่านการเจรจาหารือ และกรอบความร่วมมือต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแลกเปลี่ยนมุมมองในมิติภูมิรัฐศาสตร์ที่เปลี่ยนแปลงไป 

ด้านอุตสาหกรรมการป้องกันประเทศ รองนายกรัฐมนตรียินดีต่อความคืบหน้าหลังจากพิธีลงนามหนังสือแสดงเจตจำนงว่าด้วยความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศระหว่างกระทรวงกลาโหมของทั้งสองประเทศ ซึ่งช่วยจับคู่ทางธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการไทยและฝรั่งเศส ขณะที่เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสฯ เน้นย้ำว่า ผู้ประกอบการฝรั่งเศสมีความเชื่อมั่นต่อศักยภาพของผู้ประกอบการไทย และยืนยันว่าฝรั่งเศสจะเป็นหุ้นส่วนที่เชื่อถือได้ในระยะยาว นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะพัฒนาอุตสาหกรรมการป้องกันประเทศที่ให้ความสำคัญต่อการถ่ายทอดองค์ความรู้ และเทคโนโลยี เพื่อสร้างทักษะ เทคโนโลยี และต่อยอดไปสู่การผลิตเพื่อใช้และส่งออกในภูมิภาค 

โอกาสนี้ เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสฯ ได้เชิญรองนายกรัฐมนตรีฯ ร่วมงานนิทรรศการด้านการบินเเละอวกาศ ณ สาธารณรัฐฝรั่งเศส ช่วงเดือนมิถุนายน 2568 นี้ ซึ่งเป็นงานนิทรรศการระหว่างประเทศด้านการบินและอวกาศ โดยจะมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมจากประเทศต่าง ๆ และผู้ประกอบการด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศเข้าร่วมด้วย ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีฯ ให้ความสนใจและจะพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไปหากมีโอกาส