นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ประธานคณะทำงานรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง พรรคไทยรักษาชาติ แถลงข่าวถึงการที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ต้องใช้เวลาขบคิดในการจะรอรับขันทาบทามเป็นเเคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในบัญชีรายชื่อจากพรรคพลังประชารัฐว่า เป็นการดูถูกสติปัญญาประชาชน ซึ่งคนทั้งประเทศไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นด้วย แต่กลับรู้สึกสังเวช เพราะคนต่างรู้เท่าทันการเตรียมสืบทอดอำนาจแล้ว การวางทีท่าเช่นนั้น จึงพิสูจน์ว่าผู้มีอำนาจมองแต่เป้าหมายการสืบทอดอำนาจโดยไม่เห็นหัวประชาชน
"ผมคิดว่าข่าวที่คนไทยทั้งประเทศอยากเห็นมันไม่ใช่ลิเกที่ทำเนียบ คนไทยทั้งประเทศอยากเห็นรัฐบาลลุกขึ้นมาแจกหน้ากากกันฝุ่นให้กับประชาชน แต่กลายเป็นว่า ประชาชนรอหน้ากาก ในขณะที่นายกฯรอขันหมาก จากพรรคการเมืองอยู่ นี่คือภาพสะท้อนนะครับ ว่าหากคนบางฝ่ายคิดถึงแต่อำนาจ ก็เพิกเฉยที่จะคิดถึงประชาชน"
นายณัฐวุฒิ ระบุด้วยว่าแม้หัวหน้า คสช. ไม่ลงพื้นที่ช่วยหาเสียงให้พรรคที่สนับสนุน แต่การรับเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เท่ากับหาเสียงให้พรรคการเมืองดังกล่าวนั้นแล้วตลอด 24 ชั่วโมง เพราะจะกลายเป็นโลโก้พรรค ท่ามกลางอำนาจเต็มของรัฐบาลและมาตรา 44 ของหัวหน้า คสช. พร้อมตั้งคำถามกับนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีที่หารือกับ กกต. เพื่อสร้างความชอบธรรมให้พรรคพลังประชารัฐในการทาบทามแคนดิเดตนายกฯ ว่า พล.อ. ประยุทธ์ ต้องสมัครสมาชิกพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ หากไม่ได้สมัครแต่รับการเสนอชื่อจะมีปัญหาเรื่องการครอบงำพรรคการเมือง ซึ่งข้อเท็จจริงก็ยิ่งกว่าครอบงำ เพราะครอบครองหรือเป็นเจ้าของพรรคการเมืองนี้อยู่แล้วจึงเป็นสิ่งที่ประชาชนมองเห็นตรงข้ามกับสิ่งที่ผู้มีอำนาจรวมถึงนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ที่พยายามอธิบายด้วย
ที่สำคัญคือ หากผลการเลือกตั้งพรรคนี้ได้คะแนนไม่ถึง 25 ที่นั่งก็ไม่มีสิทธิ์เสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ถ้าเกิน 25 ที่นั่ง แต่เป็นพรรคอันดับ 3 อันดับ 4 ก็ไม่มีความชอบธรรมให้พล.อ. ประยุทธ์ ก้าวเข้าสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกสมัย เพราะการไม่ชนะเลือกตั้ง เท่ากับถูกปฏิเสธจากประชาชนไปแล้ว และหากดึงดันจะนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีต่อ อาจจะเป็นฉนวนความขัดแย้งในอนาคต จึงฝากให้ผู้มีอำนาจพิจารณาด้วย
ส่วนกรณีที่ พล.อ. ประยุทธ์ ตอบโต้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ว่า หากการเป็นรัฐบาลจะทำให้ได้เปรียบในการเลือกตั้ง ทำไมนายอภิสิทธิ์ จึงแพ้การเลือกตั้งให้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายณัฐวุฒิ เห็นว่าเป็นเรื่องที่เทียบกันไม่ได้ เพราะรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ ไม่มีความชอบธรรมใดๆ ในการลงสมัครรับเลือกตั้ง เพราะรัฐประหารมา ร่างกติกาเอง ถืออำนาจสูงสุดและยังใช้อำนาจเต็มอยู่ตอนนี้ และยังมีส่วนได้เสียกับกติกาและอำนาจที่ถืออยู่ แต่ถ้า พล.อ. ประยุทธ์ ยืนยันว่าทุกอย่างจะต้องเป็นไปตามนี้ หวังเพียงการตัดสินใจของประชาชน