ไม่พบผลการค้นหา
สปสช.ชี้ผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ท่อก๊าซระเบิด สามารถใช้สิทธิบัตรทองหรือสิทธิเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤตเข้ารับการรักษาได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ไม่จำเป็นต้องทดรองจ่ายไปก่อน และไม่ต้องห่วงเรื่องคุณภาพการรักษาเพราะสิทธิบัตรทองมีคุณภาพได้มาตรฐานอยู่แล้ว

นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า จากกรณีท่อส่งก๊าซธรรมชาติระเบิดในพื้นที่ ต.เปร็ง อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 22 ต.ค. 2563 ที่ผ่านมา จนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมากนั้น แม้ว่าจะมีการรับผิดชอบจ่ายเงินเยียวยา มีการรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลแก่ผู้บาดเจ็บ อย่างไรก็ตาม พบว่ามีประชาชนที่ไปรับการรักษาถูกเรียกเก็บเงินจากโรงพยาบาลในลักษณะที่ทดรองจ่ายไปก่อนแล้วค่อยไปเบิกคืนภายหลัง  

นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวว่า สปสช.ในฐานะหน่วยงานขับเคลื่อนระบบหลักประกันสุขภาพ หรือ บัตรทอง ขอเน้นย้ำว่าสำหรับผู้ใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพนั้น สามารถเข้ารับการรักษาได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ณ จุดบริการ ไม่ว่าผู้ใช้สิทธิรายนั้นจะมีหรือไม่มีกำลังจ่ายเงินก็ตาม โดยเฉพาะกรณีของผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต รัฐบาลมีโครงการ 'เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต มีสิทธิทุกที่' หรือ UCEP ซึ่งประชาชนทุกสิทธิสามารถเข้ารับบริการได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเช่นกัน

ขณะเดียวกัน ขอประชาชนอย่ากังวลในเรื่องคุณภาพการรักษาพยาบาล เพราะการให้บริการในระบบหลักประกันสุขภาพในโรคใดๆ ได้มีการหารือกับราชวิทยาลัยแพทย์และสภาวิชาชีพต่างๆเพื่อกำหนดแนวทางการรักษาให้ได้คุณภาพมาตรฐานอยู่แล้ว อีกทั้ง สปสช.ยังมีคณะกรรมการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานบริการสาธารณสุขคอยกำกับติดตามดูแลให้เป็นไปตามมาตรฐานอยู่ตลอดเวลา  

ด้วยเหตุนี้ ขอเรียนชี้แจงทำความเข้าใจไปยังผู้บาดเจ็บว่าสามารถใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพหรือสิทธิเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤตเข้ารับการรักษาโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ไม่ต้องทดรองจ่ายเงินใดๆ  

ทั้งนี้ หากประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวได้รับความไม่สะดวกหรือมีข้อสงสัยใดๆเกี่ยวกับการรับบริการด้านสาธารณสุข สามารถติดต่อได้ที่สายด่วน สปสช. 1330 หรือ inbox เข้ามาที่เฟสบุ๊กสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เพื่อที่เจ้าหน้าที่จะได้ชี้แจงข้อมูลสิทธิการรักษาพยาบาลต่างๆหรือช่วยติดต่อประสานงานกับหน่วยบริการต่อไป