ไม่พบผลการค้นหา
ในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งทั่วไป 2566 นี้ ‘วอยซ์’ ขอนำเสนอซีรีส์บทสัมภาษณ์ “ผู้สมัคร Young Blood” ชวนรู้จักผู้สมัคร ส.ส. หน้าใหม่-เลือดใหม่ จากแต่ละพรรคการเมือง พวกเขาเป็นใครก่อนตัดสินใจเดินหน้าทำงานการเมือง ในฐานะคนรุ่นใหม่ คิดอ่านอย่างไรต่อการเมืองไทยในตอนนี้และในอนาคต รวมถึงเหตุผลในการเลือกพรรคการเมืองต้นสังกัดว่าทำไมพรรคนี้จึง ‘ใช่’ สำหรับพวกเขา

วอยซ์ ต่อสายพูดคุยกับ ณัฐจิรา อิ่มวิเศษ หรือ เม วัย 31 ปี ผู้สมัคร ส.ส. นครราชสีมา เขต 4 พื้นที่ อ.สูงเนิน อ.ขามทะเลสอ อ.โนนไทย พรรคเพื่อไทย ดีกรีปริญญาตรี คณะบริหารธุรกิจ สาขาธุรกิจระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ปริญญาโท คณะบริหารธุรกิจ สาขาผู้ประกอบการ มหาวิทยาลัยศิลปากร และปริญญาเอก คณะการจัดการ สาขาการจัดการ มหาวิทยาลัยบูรพา

สำหรับการทำงานที่ผ่านมา เธอเล่าให้ฟังว่า ตั้งแต่ยังเรียนอยู่ในระดับปริญญาตรี เธอรับหน้าที่ช่วยดูแลอสังหาริมทรัพย์หลายแห่งในจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัวเธอเอง และระหว่างการเรียนในระดับปริญญาโท ซึ่งขณะนั้นเป็นช่วงก่อนการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เมื่อว่างเว้นจากการเรียน เธอเลือกเดินทางเข้ามาเก็บเกี่ยวประสบการณ์ทำงานเพิ่มเติมที่กรุงเทพในสายงานบริหารการตลาดอสังหาริมทรัพย์ เพราะเห็นว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์กำลังเติบโตด้วยดี จึงตั้งใจมาศึกษาดูงานเพื่อนำไปพัฒนาต่อยอดธุรกิจหมู่บ้านจัดสรรหลายโครงการที่ครอบครัวเธอกำลังบริหารอยู่ ควบคู่ไปกับการเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย สอนรายวิชาการจัดการ ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา และนครราชสีมาวิทยาลัย รวมถึงเป็นวิทยากรพิเศษที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสานด้วย

พอมีมาตรการล็อกดาวน์ ผู้คนไม่ได้ไปไหนมาไหน ทุกอย่างปิด แต่อสังหาฯ เป็นสิ่งที่คนต้องวอล์กอินไปดูรายละเอียดต่างๆ ไปดูทำเล ไม่ใช่สินค้าที่แค่ดูทางออนไลน์ก็ซื้อได้ง่ายๆ อีกทั้งตอนนี้ เมื่อคนมีรายได้น้อยลงและเป็นหนี้เพิ่มขึ้น การยื่นกู้เงินหรือลงทุนซื้ออสังหาฯ ชิ้นใหญ่แต่ละที ธนาคารก็ต้องตรวจสอบแล้วตรวจสอบอีก
ณัฐจิรา โคราช พท 2.jpg

เธอกล่าวเสริมว่า ก่อนหน้าที่จะมาทำงานการเมือง เธอเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับการเลือกตั้งมากอยู่แล้ว และไม่เคยไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งเลยแม้แต่ครั้งเดียว ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ต้องเดินทางกลับบ้านที่จังหวัดนครราชสีมาเพื่อไปเลือกตั้งทุกครั้ง ส่วนหนึ่งเพราะเธอใฝ่ฝันอยากจะลองทำงานในสนามการเมืองท้องถิ่นและไม่อยากถูกจำกัดสิทธิ แต่เมื่อได้รับโอกาสเป็นผู้สมัคร ส.ส. หน้าใหม่ในเวทีการเมืองระดับชาติ ยิ่งทำให้เห็นว่า การเลือกตั้งเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก เพราะคนที่จะมาเป็นผู้แทนของประชาชนจะต้องมีความเอาใจใส่ทุกพื้นที่ที่ตัวเองรับผิดชอบ และเป็นคนที่ประชาชนเข้าถึงได้อย่างแท้จริง

ดังนั้น การตัดสินใจเปิดตัวทำงานการเมืองร่วมกับพรรคเพื่อไทยในปี 2564 คือ "จังหวะของโอกาส" สำหรับเธอ โดยบอกว่า ในฐานะผู้ประกอบการทำธุรกิจ เธอมีความชื่นชอบและติดตามการเมืองอยู่เป็นทุนเดิม เพราะถ้าการเมืองไม่ดี ธุรกิจก็แย่ไปด้วย และเนื่องจากอายุยังน้อยกว่า 35 ปี ไม่ถึงเกณฑ์ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกฯ อบจ. ตามความมุ่งมั่นเดิมได้ เมื่อพรรคเพื่อไทยประกาศตามหาผู้สมัคร ส.ส. เพื่อเตรียมสู้ศึกเลือกตั้ง 2566 เธอที่มั่นใจว่ามีความพร้อมทั้งในเรื่องคุณสมบัติและประสบการณ์ จึงสนใจอยากขอโอกาสพิสูจน์ตนเองดู โดยยืนยันว่า เธอเป็นคนที่ลงมือทำอะไรแล้ว ก็จะทำอย่างจริงจัง และมีเป้าหมายชัดเจนว่า ณ ตอนนี้ อยากเป็นปากเสียงให้กับความเดือดร้อนของประชาชน อาทิ เศรษฐกิจปากท้อง โครงสร้างพื้นฐาน การจัดการน้ำ ราคาผลผลิตทางการเกษตร ฯลฯ ซึ่งเป็นปัญหาหลักที่ประชาชนในพื้นที่ของเธอสะท้อนมา

ณัฐจิรา โคราช พท 3.jpg
คนๆ เดียว รัฐบาลชุดเดียว สามารถทำให้เราต้องเปลี่ยนกลยุทธ์ทุกบริษัท บางบริษัทถึงขั้นล้มไปเลยก็มี แล้วตอนนี้มาขอเวลาแก้ปัญหาต่อ อยากรู้ว่า 8-9 ปีที่ผ่านมา ทำไมไม่ทำ หากไม่มีความสามารถในการบริหาร ก็ควรหาคนอื่นเข้ามาทำแทนได้แล้ว

ทั้งนี้ สาเหตุที่เธอเลือกสังกัดพรรคเพื่อไทย เพราะความมั่นใจในนโยบายและบุคลากรที่มีศักยภาพของพรรค โดยได้ยกตัวอย่าง แพทองธาร ชินวัตร และ เศรษฐา ทวีสิน สองแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ที่มีประสบการณ์บริหารบริษัทอสังหาริมทรัพย์มาเหมือนกับเธอ รวมถึงความประทับใจในนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรคของพรรคเพื่อไทย ตั้งแต่ยังคงเป็นพรรคไทยรักไทย สมัยรัฐบาล ทักษิณ ชินวัตร เพราะคนใกล้ชิดของเธอหลายคนล้วนได้รับประโยชน์จากนโยบายดังกล่าว ซึ่งสามารถยกระดับคุณภาพชีวิตพวกเขาได้จริง และเธอเองก็คาดหวังอยากเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันนโยบายดีๆ เหล่านี้ของพรรคเพื่อไทยต่อไป 

อย่างไรก็ดี เมื่อถามว่า ทุกวันนี้ ประเทศไทยต้องการผู้นำแบบไหน เธอบอกว่า ผู้นำในอนาคตจะต้องเป็นนักบริหาร จุดเด่นของคนที่เป็นผู้บริหาร คือ เขาจะสามารถแก้ไขปัญหาที่ต้นตอได้อย่างทันท่วงที ไม่ปล่อยปละละเลยให้เวลาผ่านไปจนปัญหาลุกลาม และจะต้องเป็นผู้นำที่มีหัวใจ มีความเห็นอกเห็นใจ เข้าใจถึงความเดือดร้อนที่ประชาชนต้องเผชิญ เพื่อนำไปสู่แนวทางการแก้ปัญหาที่ตอบโจทย์ สร้างความเปลี่ยนแปลงต่อชีวิตพวกเขาได้สำเร็จ.

ณัฐจิรา โคราช พท 4.jpgณัฐจิรา โคราช พท 5.jpg


ฉายฉาน คำคม
นักข่าวการเมืองภาคสนามสองภาษา เขียนข่าวต่างประเทศบ้างบางเวลา เป็นทาสแมว ชอบกินช็อกมิ้นท์
23Article
0Video
0Blog