นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะประกอบด้วย ผู้แทนสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงการต่างประเทศ กองทัพอากาศ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้เดินทางเยือนประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 2 – 4 ธันวาคม 2567 เพื่อเป็นผู้แทนรัฐบาลไทยในการลงนามความตกลงอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) ไปประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ระหว่างวันที่ 4 ธันวาคม 2567 ถึงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 ในการนี้ได้มีคณะสงฆ์ของฝ่ายไทยซึ่งมีพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยูรวงศาวาส เป็นประธานฝ่ายสงฆ์
โดยช่วงค่ำของวันที่ 2 ธันวาคม 2567 สถานทูตไทย ณ กรุงปักกิ่ง ได้เชิญนายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานกล่าวสุนทรพจน์ เนื่องในวันชาติไทย และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม ซึ่งจัดขึ้น ณ โรงแรม ไชน่า เวิลด์ โดยในสุนทรพจน์ดังกล่าวได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของสถาบันพระมหากษัตริย์และพระมหากรุณาธิคุณของพระพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีนที่มีมาอย่างยาวนาน ทั้งนี้ได้มีเอกอัครราชทูตของหลายประเทศองค์กรต่างๆ รวมถึงตัวแทนภาคเอกชนเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก
และในวันที่ 3 ธันวาคม 2567 นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานฝ่ายฆราวาสพระพรหมบัณฑิต ประธานฝ่ายสงฆ์ร่วมกับนายเฉิน รุ่ย เฟิง รัฐมนตรีประจำสำนักงานกิจการศาสนาแห่งชาติจีน และพระอาจารย์เหยี่ยน เฉวี๋ย เจ้าอาวาสวัดกว่างจี้ ประธานพุทธสมาคมจีน ได้ร่วมลงนามความตกลงในการอัญเชิญพระเขี้ยวแก้ว โดยมีตัวแทนฝ่ายฆราวาสและคณะสงฆ์ทั้งสองฝ่ายร่วมเป็นสักขีพยาน
สำหรับพิธีอัญเชิญพระเขี้ยวแก้วอย่างเป็นทางการจะมีขึ้นในวันที่ 4 ธันวาคม 2567 โดย นายชูศักดิ์ ศิรินิล จะนำคณะฝ่ายไทยทั้งฝ่ายฆราวาสและคณะสงฆ์เดินทางไปยังวัด หลิงกวง เพื่อทำพิธีอัญเชิญพระเขี้ยวแก้วเดินทางมายังท่าอากาศยานนานาชาติกรุงปักกิ่ง เพื่อเข้าสู่พิธีการอย่างเป็นทางการ ซึ่งจัดขึ้น ณ ห้องรับรองของท่าอากาศยาน ก่อนอัญเชิญพระเขี้ยวแก้ว ขึ้นเครื่อง โดยเที่ยวบินของสายการบิน ไชน่า แอร์ไลน์ โดยคณะผู้แทนฝ่ายไทยและฝ่ายจีนจะเดินทางมาพร้อมกัน คาดว่าจะอัญเชิญพระเขี้ยวแก้วถึงสนามบิน บน.6 ดอนเมือง ในเวลา 13.00 น. หลังจากนั้นในเวลาประมาณ 17.00 น.นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานพิธีอัญเชิญพระเขี้ยวแก้วขึ้นประดิษฐาน ณ มณฑป มณฑลพิธีท้องสนามหลวง