ไม่พบผลการค้นหา
ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ประชุม Video Conference ฟังสรุปสถานการณ์อุทกภัย จ.อุบลราชธานี ผู้ประสานงานเรียกร้องปรับรูปแบบช่วยเหลือ พร้อมเร่งพิจารณามาตรการเยียวยา

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย , นาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายจุลพันธ์อมรวิวัฒน์ แกนนำกลุ่มเพื่อไทยพลัส นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว นางลดาวัลลิ์วงศ์ศรีวงศ์ และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคเพื่อไทย ร่วมประชุมสรุปภาพรวมสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี จากผู้ประสานงานพรรคสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรค อาทิ นายเกรียงกัลป์ตินันท์ นายวรสิทธิ์ กัลป์ตินันท์ นายสมคิด เชื้อคง นางสาวกิตติ์ธัญญา วาจาดี นายณรงค์ชัย วีระกุล นายรัฐกิตติ์ ผาลีพัฒน์ ซึ่งเป็นแกนนำ ปักหลักอยู่ในพื้นที่ โดยรายงานมาจากใน 2 อำเภอหลัก ประกอบด้วยอำเภอเมือง และอำเภอวารินชำราบ

โดยสรุปภาพรวมในพื้นที่ว่าสัปดาห์นี้จุดใดสถานการณ์การเป็นอย่างไรบ้าง แยกเป็น 13 จุด ซึ่งสถานการณ์ภาพรวมของประชาชนยังเป็นไปด้วยความยากลำบากคาดว่าน้ำจะท่วมอีกอย่างน้อย 1-2 เดือน และเป็นใน 8 อำเภอของ จังหวัดอุบลราชธานี ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก

คุณหญิงสุดารัตน์ ได้สอบถามว่าต้องการให้รัฐบาลดูแลในส่วนใดเป็นเรื่องด่วน และระยะกลาง ซึ่งสิ่งที่เรียกร้องและต้องการสื่อสารไปถึงรัฐบาลคือการประสานข้อมูลเพื่อแจ้งเตือนระดับน้ำ ทั้งแม่น้ำมูลและน้ำโขง และหลังจากน้ำลดรัฐบาลต้องให้ความสำคัญโดยเฉพาะระบบสาธารณูปโภค น้ำไฟ รวมถึงเร่งพิจารณามาตรการเยียวยาให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยจึงต้องทำหนังสือไปถึงฝ่ายบริหารและให้ผู้แทนราษฎรของพรรคเพื่อไทยยื่นกระทู้ยื่นญัตติเข้าสู่สภา ฯจะให้พิจารณาช่วยเหลือค่าชดเชย เพื่อให้มีการพูดคุยในระดับประเทศ 

โดยในระหว่างนี้จนถึงน้ำลด ขอให้นายกรัฐมนตรีสั่งการไปยังจังหวัดให้ข้าราชการออกดูแลพื้นที่โดยแยก ว่าหน่วยงานใดรับผิดชอบจุดใด ถ้าสั่งการในลักษณะนี้ได้จะเกิดประโยชน์ต่อประชาชนโดยเฉพาะในแง่ของขวัญกำลังใจเพราะถ้าประชาชนไม่เห็นผู้ใดหรือข้าราชการเข้ามาในหมู่บ้าน ในพื้นที่ต่อเนื่อง ก็จะไม่เกิดความอุ่นใจกับพี่น้องประชาชน  

ทั้งนี้สภาพจิตใจในช่วงแรกย่ำแย่มาก แต่ปัจจุบันปรับตัวดีขึ้น จึงฝากไปถึงรัฐบาลให้ระดมกำลังออกมา รวมถึงมาตรการเยียวยา ซึ่งมองว่าเป็นเรื่องใหญ่ เช่นระบบสาธารณูปโภค ถนนหนทาง ที่จะเกิดความเสียหายอย่างมาก ขณะเดียวกัน ในแต่ละพื้นที่ยังพบผู้ป่วยติดเตียง ที่ไม่สามารถดูแลตนเองได้และต้องการความช่วยเหลือจากโรงพยาบาลโดยด่วน

ส่วนเรื่องการช่วยเหลือ ขอให้ปรับเปลี่ยนรูปแบบเป็นการสนับสนุนเงิน ที่จะสามารถนำไปใช้จ่ายได้ตรงจุด และเกิดประสิทธิภาพ เพราะที่ผ่านมาการบริจาคในรูปแบบของสิ่งของที่ส่งต่อมาในพื้นที่ เกิดความเสียหายเป็นจำนวนมาก

นอกจากนี้ ยังเห็นว่ากรณีที่นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ไม่รู้ว่าจะดีใจหรือไม่เพราะการมาของนายกรัฐมนตรี ต้องมีข้าราชการ ทหาร ตำรวจไปต้อนรับ ทำให้การช่วยเหลือประชาชนในช่วงเวลาดังกล่าว อาจขาดประสิทธิภาพ


ข่าวที่เกี่ยวข้อง :