วันที่ 13 มิ.ย. 2565 เวลา 14.30 น. ที่อาคารรัฐสภา อัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน คณะที่สอง ในคณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน แถลงข่าวว่า คณะอนุกรรมาธิการฯ ได้มีหนังสือไปยังบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายละเอียดต้นทุนการกลั่นน้ำมันในประเทศของ ปตท. เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาของคณะอนุ กมธ. 

โดย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) แจ้งว่า บริษัทฯ มีสถานะเป็นเพียงผู้ถือหุ้นของบริษัทกลุ่มโรงกลั่นน้ำมันเท่านั้น ซึ่งไม่สามารถให้ข้อมูลดังกล่าวได้ ทั้งที่หนึ่งในบริษัทดังกล่าวก็เป็นบริษัทในเครือของ ปตท. แสดงถึงความไม่จริงใจในการแก้ไขปัญหาหรือไม่ เพราะจากการปรึกษาหารือกับหลายฝ่าย ล้วนเห็นตรงกันว่ารัฐวิสาหกิจสามารถใช้กลไกเพื่อช่วยเหลือราคาน้ำมันของภาคเอกชนได้ โดยไม่ผิดกฎหมาย

อย่างไรก็ตาม ตนได้ตั้งกระทู้ถามในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่ง สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ทั้งกระทู้ถามทั่วไป และกระทู้ถามเฉพาะ แต่สุพัฒนพงษ์ ไม่มาตอบ โดยเลื่อนไปวันที่ 16 มิ.ย. 65 

ซึ่งเมื่อวาน (13 มิ.ย.) กรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่ได้เผยว่า ค่ากลั่นน้ำมันเพิ่มสูงถึง 10 เท่า ภายในปีเดียว ตนจึงขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีมากำกับดูแลเกี่ยวกับราคาน้ำมันอย่างใกล้ชิด หากรัฐมนตรีกระทรวงพลังงานปัจจุบันนี้ทำไม่ได้ ก็ขอให้ กรณ์ มารับหน้าที่แทน จะได้คลายความเดือดร้อน

อัครเดช ย้ำว่า อนุกรรมการฯ มีอำนาจตามรัฐธรรมนูญในการเรียกตัวผู้เกี่ยวข้องเข้าหารือได้ แต่ถ้ารัฐมนตรีไม่เห็นความสำคัญ และไม่สั่งการตัวแทนมาชี้แจงแทน ตนจะส่งเรื่องให้กรรมาธิการฯ ชุดใหญ่ ส่งเรื่องให้ ป.ป.ช. ดำเนินการต่อไป เนื่องจากอาจเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่