ไม่พบผลการค้นหา
เด็กชายวัย 8 ปีจากกัวเตมาลา เสียชีวิตในคืนคริสต์มาสอีฟ ขณะอยู่ในการดูแลของเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯ ถือเป็นรายที่ 2 ที่เสียชีวิตในเวลาไม่ถึง 1 เดือน

ฮัวคิน คาสโตร ส.ส.พรรคเดโมแครต ฝ่ายค้านของสหรัฐฯ ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานคณะผู้แทนฮิสปานิกแห่งสภาคองเกรส ออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจต่อครอบครัวของเด็กชายเฟลิเป อลอนโซ-โกเมซ ผู้อพยพวัย 8 ปีจากกัวเตมาลา ซึ่งเสียชีวิตจากโรคหวัด ขณะอยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่ศุลกากรและป้องกันชายแดนสหรัฐฯ หรือ CBP ช่วงค่ำวันที่ 24 ธ.ค. ตรงกับช่วงคริสต์มาสอีฟตามความเชื่อของชาวคริสต์ทั่วโลก

แถลงการณ์ของคาสโตรระบุว่า การเสียชีวิตของเด็กชายเฟลิเปเป็นเรื่องที่น่าเศร้าอย่างยิ่ง เจ้าหน้าที่รัฐบาลที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าวจะต้องสอบสวนข้อเท็จจริงให้กระจ่าง และชี้แจงต่อสาธารณชน ว่าเพราะเหตุใดเด็กชายจึงเสียชีวิตทั้งที่ถูกส่งไปรับการรักษาพยาบาลจากหน่วยแพทย์ที่ดูแลผู้ถูกกักตัวบริเวณชายแดนสหรัฐฯ-เม็กซิโกนับตั้งแต่เด็กแสดงอาการป่วยครั้งแรกก่อนถึงวันคริสต์มาส และถูกส่งตัวกลับไปยังห้องกักของ CBP อีกครั้งจนอาการทรุดหนัก แต่ถูกส่งกลับไปที่ศูนย์พยาบาลแห่งเดิม และเสียชีวิตในที่สุด 

การเสียชีวิตของเด็กผู้อพยพครั้งนี้เป็นเหตุการณ์สลดครั้งที่ 2 ในระยะเวลาไม่ถึง 30 วัน โดยก่อนหน้านี้ เด็กหญิงวัย 7 ปีจากกัวเตมาลา 'แจ็กลีน คาล มาคิน' เสียชีวิตจากภาวะขาดน้ำรุนแรง ขณะอยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่ CBP เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.

AP-ผู้อพยพ-นโยบายทรัมป์-กีดกันผู้อพยพ-ศูนย์พักพิง-ชายแดนสหรัฐ-เม็กซิโก
  • สภาพความเป็นอยู่ในค่ายผู้อพยพแห่งหนึ่งบริเวณชายแดนสหรัฐฯ-เม็กซิโก

เว็บไซต์ซีบีเอสนิวส์รายงานอ้างอิงคำให้สัมภาษณ์ของ 'เคิร์สเตน นีลเซน' รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐฯ ระบุว่าการเสียชีวิตของเด็กหญิงคนดังกล่าว เป็นภาพสะท้อนที่ชัดเจนถึงความเสี่ยงอันร้ายแรงที่ครอบครัวผู้อพยพต้องเผชิญ เมื่อเลือกที่จะเดินทางเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย

อย่างไรก็ตาม ฮัวคิน คาสโตร ในฐานะประธานคณะผู้แทนฮิสปานิก ระบุว่า เจ้าหน้าที่ต้องชี้แจงข้อเท็จจริงในการเสียชีวิตของเด็กทั้งคู่ พร้อมย้ำว่า รัฐบาลสหรัฐฯ มีพันธกิจที่จะต้องคุ้มครองและดูแลผู้อพยพลี้ภัยที่ข้ามแดนมายังสหรัฐฯ ด้วยความเคารพในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และหลักการด้านสิทธิมนุษยชน 

AP-ผู้อพยพ-นโยบายทรัมป์-กีดกันผู้อพยพ-ศูนย์พักพิง-ชายแดนสหรัฐ-เม็กซิโก
  • ผู้คัดค้านนโยบาย ปธน.ทรัมป์ ชูป้ายประท้วงการแยกเด็กผู้อพยพจากครอบครัว

เว็บไซต์ไทม์และซีบีเอส ระบุว่านโยบายกักตัวผู้อพยพและผู้ยื่นขอสถานะผู้ลี้ภัยในสหรัฐฯ ที่ถูกยกระดับขึ้นอย่างเข้มข้นในยุคโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนปัจจุบัน ส่งผลกระทบต่อครอบครัวผู้อพยพที่เดินทางเข้ามาสหรัฐฯ เป็นจำนวนมาก

ก่อนหน้านี้เคยมีกรณีที่เยาวชนผู้อพยพถูกเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ แยกตัวไปจากผู้ปกครอง ทำให้หลายครอบครัวต้องพลัดพรากจากกัน ส่วนการเสียชีวิตของเด็กทั้งสองรายในค่ายผู้อพยพบริเวณชายแดนสหรัฐฯ-เม็กซิโก ถูกมองว่าสามารถป้องกันได้ หากเจ้าหน้าที่ที่ให้ความดูแลมีความใส่ใจเพียงพอ