ศาลอาญานัดพร้อมตรวจพยานหลักฐานในคดี ที่พรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง บุญเกื้อ ปุสสเทโว จำเลย ในข้อหา "หมิ่นประมาท,หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา" และอีกคดี พรรณิการ์ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม เป็นจำเลย ในข้อหา "หมิ่นประมาท, หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา" ซึ่งในวันนี้ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม รักษาการหัวหน้าพรรคไทยภักดี พร้อมบุญเกื้อ ปุสส เทโว กรรมการโฆษกกลุ่มไทยภักดี ได้เดินทางมาศาลตามนัด ขณะที่พรรณิการ์ส่งทนายความมาเป็นตัวแทน
บุญเกื้อ ระบุว่า ก่อนหน้านี้ฝั่งตนเองได้ไปติดประกาศหมายศาลที่ตึกไทยซัมมิท เพื่อขอรายละเอียดในโครงการเมยเดย์ เมย์เดย์ ระดมทุนช่วย นักดนตรี ช่วงโควิด-19 ซึ่งปรากฎว่า รายชื่อผู้ที่ขอเข้ามา เมื่อเรียงตามลำดับหลายรายชื่อแล้วมีหลายท่านยังไม่ได้รับเงินช่วยเหลือ หลังจากนี้ ทางทีมงานจะมีการไปรวบรวมรายชื่อ 2,427 คนแรก ว่ายังมีใครที่ไม่ได้รับเงินช่วยเหลือมาเปิดเผยต่อสาธารณะชน โดยทั้ง 2,427 รายชื่อ หากพบว่าใครยังไม่ได้รับเงินช่วยเหลือให้ติดต่อมาที่ตน เพื่อเอาผิดทางคณะก้าวหน้า ในข้อหาหลอกลวงประชาชนต่อไป
ขณะที่ นพ.วรงค์ กล่าวเสริมว่า วันนี้จากการปรึกษากับทีมทนาย พบว่าหลักฐานที่ส่งมาจากฝั่งของโจทก์เป็นไฟล์ที่มีประชาชนขอรับการช่วยเหลือมา 3 ล้านรายชื่อ แต่เงินที่คณะก้าวหน้าจ่ายมีเพียง 2,427 รายชื่อ เมื่อเทียบกับ 3 ล้าน ถือเป็นจำนวนที่ต่างกันมาก
และเมื่อมีการตรวจสอบพบข้อมูลว่าอาจจะมีบางส่วนในจำนวน 2,427 รายชื่อ ไม่ได้รับเงิน จึงจะให้บุญเกื้อประกาศรายชื่อของ บุคคลลำดับ 2,427 รายชื่อแรก และหากใครไม่ได้รับเงินก็ขอให้ประสานแจ้งมายังบุญเกื้อ
ส่วนตัวคาดว่าในช่วง 1-2 สัปดาห์โจทก์จะต้องเปลี่ยนเป็นจำเลย ส่วนจำเลยจะเปลี่ยนเป็นโจทก์เพราะบุญเกื้อจะแจ้งความดำเนินคดีข้อหาหลอกลวงประชาชน ซึ่งขณะนี้ ข้อมูลทั้งหมด อยู่ในไฟล์ในโทรศัพท์มือถือแล้ว ส่วนของการนัดสืบพยานคดีที่พรรณิการ์ยื่นฟ้อง ศาลได้นัดหมายสืบพยานอีกครั้ง ในช่วงเดือน ก.พ.2565
อย่างไรก็ตามการชุมนุมของกลุ่มสามัคคีประชาชน เมื่อวานนี้ นพ.วรงค์ มองว่า กำลังจับประเด็นอยู่ว่ามีการขับไล่พล.อ.ประยุทธ์ในเงื่อนไขใด เพราะการชุมนุมที่ผ่านมาประชาชนจะต้องรู้สึกอึดอัดจนต้องออกมาร่วม แต่มูลเหตุที่ติดตามการชุมนุมเมื่อคืนนี้ เหตุผลยังไม่เพียงพอที่จะทำให้คนออกมาร่วมขับกันขับไล่รัฐบาล
อ่านเพิ่มเติม