ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ยังขอปฏิเสธที่จะเปิดเผยแนวทางการให้สิทธินำจัดตั้งรัฐบาลแก่พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นพรรคการเมือง ที่มีเสียง ส.ส.มากเป็นลำดับที่ 2 ภายหลังที่ประชุมรัฐสภา มีมติไม่ให้พิจารณาชื่อ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี ซ้ำในสมัยประชุมนี้ โดยระบุเพียง ว่า ยังต้องมีการพูดคุยกันก่อน และเชื่อว่าคงใช้เวลาในการพูดคุยไม่นาน เพราะมองว่า การได้นายกรัฐมนตรีเร็วที่สุด จะดีที่สุด
ชัยธวัช ยังระบุด้วยว่า มติที่ประชุมรัฐสภาที่ออกมานั้น ไม่ได้เกินกว่าที่มีการคาดการณ์ไว้ และหลังจากนี้ พรรคก้าวไกล จะประชุมหารือกันก่อนที่จะแถลงท่าทีอีกครั้ง
ส่วนกำลังใจของ พิธา ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งมีคำสั่งให้หยุดปฎิบัติหน้าที่ สส.จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญ จะมีคำวินิจฉัยในคดีการถือครองหุ้นไอทีวีนั้น ชัยธวัช เชื่อว่า พิธา ยังมีกำลังใจที่ดีเต็มร้อย
ส่วนพรรคก้าวไกล จะแก้เกมหลังถูกเดตล็อคทางการเมืองทั้งหมดอย่างไรนั้น ชัยธวัช กล่าวว่า จะต้องหารือภายในพรรคก่อนว่า จะทำอย่างไรหลังจากนี้ และยังไม่ได้มีการพูดคุยว่า จะไปยื่นร้องศาลรัฐธรรมนูญให้ตีความการลงมติของรัฐสภาดังกล่าวหรือไม่
'พิจารณ์' เสียดายรัฐสภาชิงลงมติคว่ำ การเสนอชื่อ 'พิธา' รอบ 2
ด้าน พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล เปิดเผยภายหลังที่ประชุมรัฐสภามีมติเห็นว่าไม่สามารถเสนอชื่อพิธาอีกครั้งได้ ว่า ตนเองยังไม่พบพิธา เพราะไม่ได้อยู่ในห้องประชุมสภา ครั้งนี้ตนไม่ได้เป็น ส.ส. เมื่อถามว่าหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ พิธา หยุดปฎิบัติหน้าที่ ส.ส. ได้มีการคุยกันหรือไม่ พิจารณ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้คุยกัน แต่พิธายังกำลังใจดี หลังจากนี้พรรคก้าวไกลต้องไปหารือกันอีกครั้งก่อน
ส่วนที่ พิธาได้แถลงว่าจะเปิดทางให้พรรคเพื่อไทย หากพรรคก้าวไกลตั้งรัฐบาลไม่สำเร็จ มีกำหนดระยะเวลาเมื่อใดนั้น พิจารณ์ กล่าวว่า วันนี้ตั้งใจจะมาให้เกิดการลงมติว่าเสนอชื่อ พิธา แต่ปรากฏว่ากระบวนการเสนอชื่อ พิธายังไม่เกิดขึ้นกลายเป็นการตีความการเสนอชื่อเป็นญัตติ จนมีการลงมติอย่างที่เห็น
ก็ต้องอธิบายกับประชาชนว่า กระบวนการที่เกิดขึ้นในวันนี้ไม่ใช่กระบวนการเลือกนายกรัฐมนตรี แต่เกิดจากการตีความว่าการเสนอชื่อ พิธา เป็นนายกฯ เป็นญัตติตามข้อบังคับที่ 41 ซึ่งข้อบังคับบอกว่าถ้าญัตติใดตกไปแล้วไม่สามารถจะเสนอช้ำในสมัยประชุมได้ เว้นแต่ประธานรัฐสภาจะวินิจฉัยว่าเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงไปจึงจะเสนอได้
อย่างไรก็ตามเมื่อมีการตีความแบบนี้ ที่ประชุมลงคะแนนแล้วปิดประชุมทันที ยังไม่ได้เข้าสู่การเสนอชื่อพิธา เป็นนายกฯ ประธานจะวินิจฉัยว่ามีเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงไปหรือไม่ ก็คล้ายกับยังไม่เสร็จสิ้นกระบวนการ ส่วนหลังจากนี้ก็คงต้องพูดคุยกันภายในพรรค