วันที่ 11 เม.ย. ที่พรรคเพื่อไทย ระหว่างการแถลงข่าวเปิดตัวเว็บไซต์ข้อมูลผู้สมัครพรรคเพื่อไทย ภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า เมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา มีมิจฉาชีพแก๊งคอลเซนเตอร์โทรศัพท์หาประชาชน อ้างว่ามาจากพรรคเพื่อไทย ให้ดำเนินการกรอกรายละเอียดข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อจะโอนเงินให้ 10,000 บาท สืบเนื่องมาจากการประกาศนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัลของพรรค
จึงขอชี้แจงว่า พรรคเพื่อไทยไม่มีการดำเนินการในลักษณะดังกล่าว ถือว่าไม่เป็นความจริง ดังนั้น ขอให้ประชาชนมีความระมัดระวัง ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อถูกหลอกลวงได้ เพราะนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัลนี้จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลเท่านั้น
เมื่อถามถึงกรณีที่ กกต.แจงว่าพรรคเพื่อไทยยังไม่ส่งคำชี้แจงเรื่องที่มาของเงินและวงเงินที่ต้องใช้ในนโยบายหาเสียงแจกเงินในกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000บาท นั้น ภูมิธรรม กล่าวว่า ทุกนโยบายที่พรรคเพื่อไทยจัดทำได้ส่งรายงานไปยัง กกต.แล้ว และมีบางประเด็นที่ กกต.เห็นว่ายังไม่ชัดเจนเราก็ได้ส่งไป ซึ่งการที่พรรคเพื่อไทยไม่ได้บอกรายละเอียดทั้งหมดบนเวทีปราศรัยเพราะไม่อยากให้เกิดการเกทับกัน โดยเฉพาะนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัลที่พรรคเพื่อไทยเปิดรายละเอียดเป็นขั้นเป็นตอน มองว่าที่มีการโต้แย้งมา ไม่เป็นไร แปลว่ายังมีเรื่องไม่เคลียร์ และตอนนี้ยังไม่ครบกำหนดในการส่งรายละเอียด อีกทั้ง กกต.เองก็ให้ดำเนินการส่งเป็นช่วงๆ ไป ยืนยันทำตามกติกาทุกอย่างที่ กกต.กำหนด และส่งได้ทันกำหนดแน่นอนดังนั้นไม่ต้องกลัว และตอนนี้พรรคเพื่อไทยอยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลที่ประชาชนยังไม่เข้าใจ เพื่อจะอธิบายทุกประเด็นกลับไปยัง กกต.
“สิ่งที่จะวิจารจารณ์นโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล ต้องเข้าใจในรายละเอียดวิธีคิดก่อน และการตัดสินใจใช้นโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล เพราะมองไปที่อนาคตของประเทศที่กำลังตกต่ำ รุนแรง ดังนั้นกระเป๋าเงินดิจิทัลเป็นโครงการใหญ่ของเรา ที่หวังกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ลงไปในชุมชนตามเป้า สร้าง GDP อย่างน้อย 5% ขณะนี้ผู้สมัคร ส.ส.และทีมเศรษฐกิจกำลังเดินหน้าชีวิตกับประชาชน และสิ่งที่พรรคเพื่อไทยคิด ไม่ได้ใช้งบประมาณมากกว่าที่รัฐบาลปัจจุบันที่ทำอยู่ ยอมรับอาจเป็นเรื่องที่เข้าใจยากแต่ก็จะพยายามอธิบาย” ภูมิธรรม กล่าว
นอกจากนี้ กรณีที่ ศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย และ สนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษา กมธ.การกฎหมาย ฯ ยื่นหนังสือให้ กกต.ตรวจสอบนโยบายของพรรคเพื่อไทย มีความผิดถึงขั้นยุบพรรค นั้น ภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่เป็นไรเราก็พร้อมรับฟัง เรื่องนี้ไม่ได้ผิดเรื่องการใช้เงินจูงใจ หรือเป็นการแจกเงิน แต่เป็นนโยบายที่จะยกระดับเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งมีการร้อง กกต.ก็มีหน้าที่พิจารณา พรรคเพื่อไทยก็มีหน้าที่ชี้แจงให้ประชาชนทราบ เช่นเดียวกับสมัยที่เคยมีนโยบายกองทุนหมู่บ้าน นโยบาย 30 บาทก็เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าจะเอาเงินมาจากที่ไหน เราก็พิสูจน์มาแล้วว่าทำได้
ส่วนกรณีที่ ไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ออกมาประกาศไม่จับมือกับพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล ภูมิธรรม กล่าวว่า “ก็ดี ที่ไพบูลย์ ประกาศความชัดเจนออกมา เพราะที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยเคยประกาศชัดเจนแล้ว แต่ยังมีคนสงสัย ย้ำว่าพรรคเพื่อไทยจะมุ่งสู่แลนด์สไลด์เพื่อเป็นรัฐบาลพรรคเดียว หรือถ้าจำเป็นต้องประกอบก็จะรวมกับฝ่ายประชาธิปไตย ดังนั้น ไม่มีเหตุที่จะจับมือกับใคร เราอยากชนะให้เด็ดขาด ให้ชนะ ส.ว. ก็ดีที่ไพบูลย์ตอบให้ชัดเจน