นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรุ๊ปไลน์ของ พรรคพลังประชารัฐ หลุดในประเด็นความขัดแย้งเรื่อง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรณีกักตุนหน้ากากอนามัย ว่า ไม่มีอะไร ส่วนสถานการณ์ภายในพรรคขณะนี้ เป็นช่วงปิดสมัยประชุม ส.ส.แต่ละคนอยู่ระหว่างการลงพื้นที่ และเมื่อคืนนี้ได้รับประทานอาหารกับฝ่ายบู๊ของพรรคพลังประชารัฐที่ทำงานในช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจ ยืนยันไม่มีการส่งสัญญาณใดๆ เพื่อขอให้ ร.อ.ธรรมนัส ลาออกจากตำแหน่ง เพราะเป็นการนัดหมายล่วงหน้านานกว่า 10 วันแล้ว และเป็นแค่ฉลองขอบคุณผู้ที่ทำงานในช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจ ไม่ได้พูดคุยเรื่อง ร.อ.ธรรมนัส แต่อย่างใด แม้ว่าในวงกินข้าวจะมีคนเคยเป็นคู่กรณีกับ ร.อ.ธรรมนัส อยู่ด้วยก็ตาม ส่วนเรื่องหน้ากากอนามัยเข้าสู่คณะกรรมาธิการ ป.ป.ช. นั้น นายสิระ กล่าวว่า หากนำเข้ากรรมาธิการเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว ซึ่งตนในฐานะที่เป็นกรรมาธิการ ไม่ว่าใครทำผิด ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ กรรมาธิการพร้อมตรวจสอบ ไม่มีการปกป้อง ทั้งนี้ นายสิระ ยังคงยืนยันในจุดยืนขอให้ ร.อ.ธรรมนัส ลาออก โดยใช้สิทธิในฐานะประชาชนและสภาผู้แทนราษฎร พร้อมย้ำว่า ร.อ.ธรรมนัส จะต้องใช้ดุลยพินิจส่วนตัว เพราะไม่มีสิทธิที่จะไปบังคับปลด ร.อ.ธรรมนัสออก อยู่ที่การตัดสินใจของ ร.อ.ธรรมนัส ส่วน ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐขณะนี้ลงพื้นที่อยู่ ไม่มีใครนำเรื่องนี้มาพูดถึงในไลน์ เพราะไม่มีใครเล่นไลน์ “ถ้าเป็นผม การลาออกเพื่อพิสูจน์ตัวเองเนี่ย ผมลาออกแล้ว ถ้ารู้สึกว่าพิสูจน์แล้วขาวสะอาด ทางผู้ใหญ่ อาจพิจารณาให้กลับมาเหมือนเดิม ส่วนจะมองว่าคุณธรรมนัสต้องลาออกก่อนหรือไม่ ในมุมถ้าเป็นผม ผมลาออก ส่วนสิทธิของใคร ใครจะคิดอย่างไร เป็นสิทธิส่วนบุคคล” นายสิระ กล่าว พร้อมกันนี้ นายสิระ ตั้งคำถามว่า หากผู้ติดตามทำผิด ผู้แต่งตั้งต้องรับผิดชอบหรือไม่ บอกไม่รู้จักกัน แล้วมาแต่งตั้งก็ยิ่งเจ็บ พร้อมเปรียบหากคนในบ้านไปกัดชาวบ้าน เจ้าของก็ต้องรับผิดชอบ นายสิระ กล่าวว่า จากคลิปของผู้ที่กักตุนหน้ากาก ตนสงสัยว่า ที่ระบุว่าทำขึ้นมาล้อเล่นนั้น อยากทราบว่า หน้ากากที่เห็นในคลิปอยู่ไหน และหากมีการจำหน่าย จำหน่ายไปที่ไหน มีการเสียภาษีหรือไม่ ผู้เกี่ยวข้องและตัวละครทั้งหมด ให้ไปตรวจสอบเส้นทางการเงินด้วย ซึ่งการตรวจสอบของกรรมาธิการที่มีหน้าที่ตรวจสอบเจ้าหน้าที่ของรัฐ ในส่วนพฤติกรรมของผู้ติดตามรัฐมนตรีนั้น ยืนยันว่า ตนก็ต้องตรวจสอบ เมื่อถามว่า เคยเห็นพฤติกรรมของผู้ติดตาม ร.อ.ธรรมนัสหรือไม่ นายสิระ กล่าวว่า “อย่าให้เหลาเลย มันพูดไม่ได้ในที่สาธารณะ เหลาสักนิดก็ไม่ได้ พูดไม่ได้ ผมโดนไป 3 คดีแล้วตั้งแต่เป็น ส.ส.แล้ว” สำหรับข้อมูลที่เตรียมจะแฉเรื่องการกักตุนหน้ากากนั้น นายสิระ ยืนยันว่า มีผู้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวและมีคนต่างชาติเดินทางมาจริง แต่ยังขอวิเคราะห์อีกครั้ง ส่วนจะเกี่ยวข้องกับผู้ติดตามของร้อยเอกธรรมนัสหรือไม่นั้น ยังบอกไม่ได้ เพราะตอนนี้หลังจากที่ตนได้ให้สัมภาษณ์ไปนั้น ผู้ที่ให้ข้อมูลแก่ตนก็เกรงว่าจะเดือดร้อน โดยเรื่องนี้ ตนจะต้องขอข้อมูลกล้องวงจรปิดของรัฐสภา เพื่อติดตามการเข้าออกและพฤติกรรมของผู้ติดตามคนดังกล่าว เพราะมีคนแจ้งว่า มีเหตุเกิดขึ้นในรัฐสภา แต่ยังไม่ทราบข้อเท็จจริงว่าจริงหรือไม่ ซึ่งตนก็ยังเชื่อว่าจะมีเหตุการณ์เกิดขึ้นภายในรัฐสภา เพราะธรรมชาติของผู้ติดตามต้องเข้ามาที่รัฐสภา ทำเนียบรัฐบาล และกระทรวงด้วย คาดว่าเร็วๆ นี้จะเปิดเผยเรื่องดังกล่าวได้ ขณะเดียวกัน ยังชี้แจงกรณีนายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ ว่า ลาออกจากกรณีที่แจกหน้ากากอนามัยไม่มีคุณภาพนั้น ยืนยันเงินที่ซื้อบริจาคมาจากเงินเดือนภาษีประชาชน ไปดูแลประชาชน ด้วยจิตใจบริสุทธิ์ อยากถามกลับไปยังนายไผ่ ว่า วิกฤตของประชาชน คนเป็นผู้แทนของประชาชนเหมือนตน คุณทำอะไรให้กับประชาชนบ้างหรือยัง โดยนายไผ่ไม่ต้องควักเงินก็ได้ แต่ขอให้ไปตรวจสอบว่าทำไมหน้ากากอนามัยถึงขาดตลาด ใครกักตุนไว้ ที่ใดจำหน่ายเกินราคา พร้อมย้ำว่า เหตุการณ์ระหว่างตนเองกับนายไผ่เคลียร์แล้ว และสามารถมองหน้ากันได้ แต่ยังไม่ได้เจอกัน ซึ่งจากการพูดคุยกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี บอกให้ตนใจเย็นๆ พักผ่อนบ้าง เนื่องจากทำงานมาเหนื่อยมากแล้ว